หวย 30 ล้าน กับสังคมไทย

       คดีลอตเตอรี่ 30 ล้าน ที่จังหวัดกาญจนบุรี โด่งดังข้ามปีข้าม พ.ศ.จากปลายปีที่แล้วจนมาถึงปี 2561 และต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิในการเป็นเจ้าของหวยรางวัลที่ 1 คำกล่าวที่ว่า “เงินตกลงไปที่ไหน คุณธรรม จริยธรรม จะหายไป” เป็นเรื่องที่ไม่ไกลไปจากเหตุการณ์ในคดีนี้เลย ณ นาทีนี้ คงไม่มีใครชี้ชัดไปได้ว่า ใครเป็นเจ้าของรางวัลที่หนึ่งตัวจริง เพียงแต่ดูข่าวจากสื่อมวลชนและเลือกข้างเชื่อเลือกเชียร์กันไปตามความรู้สึกนึกคิด ซึ่งที่จริงแล้ว คดีนี้ง่ายมาก คือ มันต้องมีคนถูกคนหนึ่งและคนผิดอีกคนหนึ่ง อยู่ที่ว่าคนที่ผิดจะยอมรับและจำนนด้วยหลักฐานเมื่อไหร่ เรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องที่คนไทยจะต้องมาสนใจมากมายให้ปวดหัวเลย หากว่า คนที่ไม่ใช่เจ้าของหวยตัวจริง มีคุณธรรม มีจริยธรรม ไม่เอาลาภของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง สิ่งที่สะเทือนใจผู้เขียนมากกว่าก็คือ สังคมไทยเวลานี้บุคคลที่สมควรจะเป็นแบบอย่างของการทำความดี สอนคนอื่น เตือนคนอื่น ให้ไม่โลภ กลับกลายมาทำเสียเอง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดถูก และสมควรได้รับรางวัลจริงขึ้นมา แต่ภาพที่สะท้อนออกมาก็คือ คนไทยลุ่มหลงกับอบายมุขแบบงอมแงม ถอนตัวไม่ขึ้น จริงอยู่การซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลนั้น เป็นการพนันที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะรัฐบาลโดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นเจ้ามือเอง และมีการนำผลประโยชน์ส่วนหนึ่งไปใช้จ่ายเพื่อสาธารณประโยชน์ แต่การมีสลากกินแบ่งรัฐบาลบนดินที่ถูกต้อง ตรงไปตรงมา มีการรับรองโดยรัฐบาล ก็ได้กลายเป็นช่องทางให้เกิดการทำหวยใต้ดิน ใช้เป็นตัวเลขอ้างอิง โดยเจ้ามือหวยใต้ดินไม่ต้องเสียเวลาหมุนรางวัลหรือแสดงออกถึงความโปร่งใส ทุกอย่างยืมมือรัฐบาลเจ้ามืออย่างเป็นทางการทำให้ ส่วนเจ้ามือรับกินรับใช้ นอนตีพุงสบาย ๆ ไป และเหตุการณ์ในคดีนี้ เท่าที่ทราบ คนที่เป็นตำรวจ ที่คอยจับคนเล่นการพนันที่ผิดกฎหมาย ก็มีพฤติกรรมซื้อลอตเตอรี่งวดละหลายใบยกชุด ซึ่งกลายเป็นยอมรับว่า การขายลอตเตอรี่เกินราคา มีจริง แม้กระทั่งตำรวจเองยังซื้อ!

        ข้างฝ่ายครู ที่สมควรสอนให้ลูกศิษย์รู้จักความประหยัด ไม่โลภ ทำมาหากินเลี้ยงชีพโดยสุจริต กลับแสดงหลักฐานการซื้อลอตเตอรี่ชุดใหญ่งวดละหลาย ๆ ชุด เท่ากับว่าลุ่มหลงมัวเมาในการเสพติดอบายมุขชนิดนี้แบบถอนตัวไม่ขึ้น แล้วต่อไปเด็ก ๆ จะเชื่อฟังครูมั้ย คุณธรรมเรื่องความประหยัด อดออม หายไปอยู่ที่ไหนหมด! และที่แน่นอนที่สุด คงหนีไม่พ้น กองเชียร์ของทั้งสองฝ่าย ซึ่งแน่นอนว่า ต้องมีฝ่ายหนึ่งพูดความจริง และมีอีกฝ่ายที่พูดโกหก ลงท้ายสังคมไทยที่ควรมีคุณธรรมในเรื่องสัจจะ ไว้เนื้อเชื่อใจกันได้ ก็ถูกทำลายไปอีก สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดในเวลานี้ คงไม่ใช่เรื่องว่า ครูหรือตำรวจ คนไหนจะได้รางวัล 30 ล้านบาทไปครอบครอง แต่ประเด็นสำคัญที่สุด คือ ถ้าหากว่าฝ่ายใดโกหกตัวเองและสังคมขึ้นมา เขานอกจากจะโดนโทษตามกฎหมายที่ฟ้องร้องกันอยู่แล้ว ก็จะกลายเป็นคนที่ไม่มีที่ยืนในสังคม สำคัญที่สุด ก็คงเป็นการทำลายคุณธรรม จริยธรรม ของอาชีพทั้งสองที่มีเกียรติสมควรได้รับการยกย่องในสังคม สมควรเป็นแบบอย่างกับเยาวชนคนรุ่นหลัง งานนี้ หวย 30 ล้าน ทำลายล้างคุณธรรม จริยธรรมในสังคมไทย ไปอย่างราบคาบแล้ว