อุทยานฯ ยันต้องเข้ม“สิมิลัน” เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติกลับคืน

         เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวทะเลฝั่งอันดามันวันแรก ท่าเรือพังงาคึกคัก นักท่องเที่ยวทะลักเข้าหมู่เกาะสุรินทร์เพียบ ผู้ประกอบการว่า นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกแห่เที่ยวเกาะมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา คาดมีนักท่องเที่ยวเพิ่มไม่น้อยกว่า 3 เท่าตัว ขณะที่อุทยานฯหมู่เกาะสิมิลันเงียบเหงา จากการจัดระเบียบจำกัดนักท่องเที่ยวเข้าบริเวณได้ไม่เกิน 3,850 คนต่อวัน และห้ามค้างแรมบนเกาะ หลังธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมประสบปัญหามหาภัยเสื่อม จากขยะ และน้ำเสีย ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวประท้วง ไม่พานักท่องเที่ยวเข้าเกาะ ขณะรายงานข่าวนี้ ยังหาข้อสรุปไม่ได้ เบื้องต้นกลุ่มผู้ประกอบการต่อรอง ขอผ่อนผันช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ มกรา-เมษา ขอเพิ่มโควตา นักท่องเที่ยวอีก 40% ส่วนอุทยานฯยืนยันยังต้องคุมเข้ม เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ

“อุทยานฯหมู่เกาะสิมิลัน”

จัดระเบียบรับไฮซีซั่น

         กรณีที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ทะเลอันดามัน สวรรค์ของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยเฉพาะจีน ได้ออกประกาศจัดระเบียบการเข้าบริเวณอุทยานฯ หมู่เกาะสิมิลัน โดยจำกัดนักท่องเที่ยว เนื่องจากมีปัญหาเมื่อปีที่แล้ว มีนักท่องเที่ยวทะลักเข้าจนล้นเกาะ ทั้งค้างคืนและไป-กลับ ทำให้ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรมทันตาเห็น จากขยะ และน้ำเสีย ปะการังหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบ

         การจัดระเบียบดังกล่าว ก็เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม โดยกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืชได้ออกประกาศใน 3 เรื่องหลักคือ ห้ามนักท่องเที่ยวพักค้างแรมบนเกาะ จำกัดนักท่องเที่ยวไม่เกิน 3,850 คนต่อวัน และห้ามเรือบรรทุก 100 คน แล่นเข้าเขตอุทยานฯ เด็ดขาด เป็นการต้อนรับเปิดฤดูการท่องเที่ยวเกาะ ฝั่งอันดามันในฤดูกาลนี้วันที่ 15 ตุลาคม 2561

         ในเรื่องแรก กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ห้ามนักท่องเที่ยวขึ้นพักแรมค้างคืนในเขตอุทยานฯ หมู่เกาะสิมิลัน ยกเว้นผู้ได้รับอนุญาต สำหรับการทำกิจกรรมประเภทดำน้ำลึก โดยกำหนดรูปแบบการท่องเที่ยวเขตอุทยานฯ เป็นแบบไป-กลับ โดยมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา

         เดิมที อุทยานฯหมู่เกาะสิมิลัน อนุญาตให้นักท่องเที่ยวสามารถพักค้างแรมได้บนเกาะ เมียง หรือเกาะ 4 ซึ่งมีบ้านพัก บริเวณที่กางเต็นท์ และมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวให้บริการ แต่ปรากฏว่า การพักค้างคืนของนักท่องเที่ยวก่อให้เกิดขยะ และน้ำเสียไหลลงทะเล ทำให้เกิดความเสียหายต่อ ปะการัง สัตว์น้ำ และระบบนิเวศ ในเขตอุทยานฯ

         เรื่องที่สอง คือ การจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว ซึ่งทางกรมอุทยานฯ ได้ออกประกาศจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวไว้ ไม่เกิน 3,850 คนต่อวัน โดยแบ่งเป็นเส้นทางจากเกาะสี่ไปเกาะแปดไม่เกิน 1,625 คนต่อวัน เส้นทางจากเกาะแปดไปเกาะสี่ไม่เกิน 1,700 คนต่อวัน และนักท่องเที่ยวที่จะมาทำกิจกรรมดำน้ำลึกตามจุดต่างๆ 21 จุด กำหนดไม่เกิน 525 คนต่อวัน

         ส่วนเรื่องที่สามสุดท้าย อุทยานแห่งชาติฯ ยังออกประกาศ กำหนดอัตราค่าบริการเรือที่ใช้แล่นบริการนักท่องเที่ยวในเขตหมู่เกาะสิมิลันดังนี้ เรือขนาดบรรทุกโดยสารไม่เกิน 25 คน ราคา 500 บาทต่อลำต่อวัน เรือขนาดบรรทุกโดยสารตั้งแต่ 26-50 คน ราคา 1,000 บาทต่อลำต่อวัน เรือขนาดบรรทุกโดยสารตั้งแต่ 51-100 คน ราคา 2,000 บาทต่อลำต่อวัน และไม่อนุญาตให้เรือที่มีขนาดบรรทุกโดยสารเกิน 100 คน เข้าในเขต    อุทยานฯ หมู่เกาะสิมิลัน

         สำหรับอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันนั้น มีหาดทรายขาวละเอียด อีกทั้งยังมีลักษณะเป็นหาดกว้าง และโค้งยาวคล้ายเกือกม้า น้ำทะเลใสดูสะอาด ใต้น้ำสมบูรณ์ไปด้วยกองหิน แนวปะการัง และปลาสวยงาม ที่สามารถดำน้ำตื้นชมได้อย่างสบายใจ ส่วนบริเวณใต้ท้องทะเลลึกก็งดงามไปด้วยธรรมชาติ ปะการัง กัลปังหา ดอกไม้ใต้ทะเล จนถูกยกให้ติด 1 ใน 10 แหล่งดำน้ำลึกที่สวยงามที่สุดในโลก

         ปัจจุบันประกอบไปด้วยเกาะ 11 เกาะด้วยกัน ได้แก่ เกาะหนึ่ง(หูหยง) เกาะสอง(ปายัง) เกาะสาม(ปาหยัน) เกาะสี่(เมียง) เกาะห้า เกาะหก(ปายู) เกาะเจ็ด(หินปูซาร์) เกาะแปด(สิมิลัน) เกาะเก้า(บางู) และเมื่อไม่นานมานี้ได้ผนวกเอาเกาะตาชัย และเกาะบอนที่อยู่ในละแวกเดียวกันเพิ่มเข้ามาอีก รวมเป็น 11 เกาะ

         นอกจากนี้เกาะแปดยังมี “หินใบ” หรือ “หินเรือใบ” ที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติ เป็นก้อนหินขนาดใหญ่ตั้งตระหง่าน ดูโดดเด่นสวยงาม เป็นสัญลักษณ์ของอุทยานฯหมู่เกาะสิมิลัน นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปชมวิวมุมสูงของเกาะบนบริเวณหินก้อนนี้ได้

         ส่วนเกาะเมียง หรือเกาะสี่ เป็นเกาะใหญ่อันดับสองของหมู่เกาะสิมิลัน บนเกาะสี่มีหาดหน้าและหาดเล็กเป็น 2 จุด ที่มีน้ำใสสะอาดที่นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำได้ นอกจากนี้ก็ยังมีนกประจำถิ่นอย่าง “นกชาปีไหน” ตัวสีเขียวอมน้ำเงิน และมี “ปู่ไก่” ปูตัวโตสวยงาม เสียงร้องคล้ายไก่ ที่ถูกยกให้เป็นอันซีนไทยแลนด์

ท่าเรือพังงาคึกคัก

วันเปิดฤดูเที่ยวเกาะ

         เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2561 มีรายงานข่าวจาก จ.พังงา แจ้งว่า วันแรกของการประกาศเปิดอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะทางฝั่งทะเลอันดามัน อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวได้ตามปกติ หลังกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชประกาศปิดเกาะมาตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2561 เป็นเวลา 5 เดือน เพื่อให้ธรรมชาติฟื้นตัว ประกอบกับเป็นช่วงฤดูมรสุมคลื่นลมแรง ท่าเรือท่องเที่ยวในอำเภอตะกั่วป่า และอำเภอคุระบุรี ซึ่งมุ่งหน้าไปยังหมู่เกาะสุรินทร์ ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา หลายแห่งคึกคักมากเป็นพิเศษ

         ผู้ประกอบการคาดว่า ในปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปยังหมู่เกาะสุรินทร์มากกว่าปีที่ผ่านมาไม่น้อยกว่า 3 เท่าตัว เนื่องจากหมู่เกาะสิมิลัน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวล้นเกาะเมื่อปีที่แล้ว ประกาศจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว จึงมีเพียงเรือท่องเที่ยวดำน้ำลึก จำนวน 2 ลำ นำนักท่องเที่ยวจำนวน 39 คน เดินทางไปท่องเที่ยวดำน้ำลึก เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันแจ้งว่า จนถึงขณะนี้นักท่องเที่ยวแบบวันเดย์ทริป หรือไปเช้าเย็นกลับ ยังไม่มีการจองตั๋วที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวยังหมู่เกาะสิมิลัน

         ส่วนที่ท่าเรือบ้านทับละมุ ท่าเรือบ้านท่าดินแดง ท่าเรือบ้านท่านุ่น ซึ่งจะเดินทางไปหมู่เกาะสิมิลัน ปกติมีเรือสปีตโบ๊ต และนักท่องเที่ยวหลายร้อยคนไปรอลงเรือเพื่อเดินทางไปยังอุทยานฯหมู่เกาะสิมิลันกลับเงียบเหงา เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่แจ้งว่าไม่พร้อมที่จะนำนักท่องเที่ยวเดินทางไปหมู่เกาะสิมิลัน ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ ซึ่งจองผ่านบริษัททัวร์มากกว่า 800 คน ต้องผิดหวัง

ทัวร์สิมิลันชุมนุมประท้วง

ประกาศกรมอุทยานฯ

         ต่อมาเมื่อบ่ายวันที่ 15 ตุลาคม 2561 เวลา 14.30 น. ที่โรงเรียนพระราชทานทับละมุ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา นายณัฐกิตติ์ ล้อวิชช์วรวัชร ประธานชมรมเรือนำเที่ยวเกาะสิมิลัน-สุรินท์ นำกลุ่มผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยว รถตู้รับจ้าง และลูกจ้างบริษัทเรือท่องเที่ยวหมู่เกาะสิมิลัน ทั้งใน จ.ภูเก็ต และจ.พังงา ประมาณเกือบ 1,000 คน ชุมนุมชูป้ายเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยแก้ปัญหากรณีประกาศของกรมอุทยานฯ เรื่องการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อการผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวเป็นลูกโซ่ ทั้งพนักงาน ลูกจ้าง รวมถึงผู้ขับรถตู้โดยสารอีกด้วย

         ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมพูดคุยถึงผลกระทบทั้งระบบอยู่นั้น นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วย นายโอภาส นวลมังสอ ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นครศรีธรรมราช ได้เดินทางเข้ารับหนังสือร้องเรียนจากกลุ่มผู้ชุมนุม เรื่องขอให้ทางกรมอุทยานฯ ผ่อนผันการประกาศกรมอุทยานฯ กรณีจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวในหมู่เกาะสิมิลันออกไปก่อน จนกว่าจะได้ข้อยุติ ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ได้เสนอให้ทางกลุ่มผู้ชุมนุมตั้งตัวแทน ผู้ประกอบการ ฝ่ายเจ้าหน้าที่อุทยานฯ หมู่เกาะสิมิลัน และฝ่ายปกครอง เข้าหารือเพื่อหาข้อยุติภายในสัปดาห์นี้ หลังจากนั้นก็นำข้อสรุปเสนอกรมอุทยานแห่งชาติฯ พร้อมข้อมูลข้อเท็จจริง เพื่อให้ทางกรมอุทยานฯ มีประกาศ หรือผ่อนผันตามการพิจารณา

         ในการชุมนุมครั้งนี้ พบว่ามีชาวมอแกนประมาณ 50 คน เข้าร่วมชูป้ายด้วย มีข้อความว่าชาวบ้านมอแกนตกงานเกือบทั้งหมู่บ้าน โดย นายน๊อต กล้าทะเล อายุ 19 ปี ชาวมอแกน พร้อมด้วย นายภานุพงศ์ แสงสุวรรณ อายุ 24 ปี พนักงาน บ.เลิฟอันดามัน กล่าวว่า ชาวมอแกนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่หมู่เกาะสุรินทร์มานานกว่า 200 ปี ปัจจุบัน ในหมู่บ้านมีแต่คนชรา ผู้หญิง และเด็ก ส่วนชายวัยทำงาน ได้ทำงานเป็นพนักงานของบริษัททัวร์

         จากประกาศกรมอุทยานฯหมู่เกาะสิมิลัน ได้ส่งผลกระทบกับธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่ ซึ่งทางบริษัทมีแนวโน้มเลิกจ้าง ทำให้ตนเองและชาวมอแกนจำนวนกว่า 50 คน ในหมู่บ้านต้องตกงานไม่มีรายได้ ถ้าจะหันกลับไปทำประมงก็เกรงจะทำลายทรัพยากรธรรมชาติในเขตอุทยานแห่งชาติอีก ทำให้ชาวมอแกนปัจจุบันนี้ น่าจะต้องเกิดความลำบากในการใช้ชีวิตอย่างแน่นอน

         สำหรับวันแรกของการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวที่อุทยานฯหมู่เกาะสิมิลันในวันเปิดการท่องเที่ยวพบว่า ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวแม้แต่คนเดียว มีแค่กลุ่มนักท่องเที่ยวดำน้ำลึกเข้าเที่ยวดำน้ำรวม 49 คนเท่านั้น เพราะกลุ่มผู้ประกอบนำเที่ยวได้ประกาศหยุดให้การบริการท่องเที่ยวเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะได้รับการแก้ไขประกาศของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธ์ุพืช

ผลประชุมตัวแทน

ยังหาข้อสรุปไม่ได้

         เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2561 ที่ห้องประชุมชุมชนบ้านน้ำใส ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง พังงา นายพงษ์ศักดิ์ คารวานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ได้เป็นประธานการประชุมหาข้อยุติการแก้ปัญหา โดยผู้เข้าร่วมประชุมมี นายกมล นวลใย ผอ.ส่วนจัดการอุทยานแห่งชาติทางทะเล นายรวมศิลป์ มานะจงประเสริฐ หน.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว หอการค้า สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวพังงา ประธานชมรมผู้ประกอบการเรือนำเที่ยว สิมิลัน-สุรินทร์ และกลุ่มเรือผู้ประกอบการนำเที่ยว

         ปรากฏว่า ที่ประชุมได้ถกปัญหากันอย่างเคร่งเครียดกว่า 3 ชั่วโมง แต่ยังหาข้อสรุปแนวทางที่ชัดเจนไม่ได้ ในที่สุดได้ขอให้ประธานหอการค้าจังหวัด นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว และประธานชมรมชมรมเรือนำเที่ยว ร่วมกันพิจารณาอีกครั้ง

         จากการประชุมในครั้งนี้เบื้องต้น มีข้อเสนอต่อกรมอุทยานฯ เกี่ยวกับการจำกัดนักท่องเที่ยวจาก 3,850 คนต่อวัน แยกเป็นไปเช้าเย็นกลับ 3,325 ดำน้ำลึก 525 คน ให้พิจารณาช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ ในช่วงเทศกาลตั้งแต่เดือนมกราคม–เมษายน เพิ่มจำนวนนักท่อเที่ยวเป็นวันละ 4,200 คน หรือเพิ่ม 40% ของช่วงวันปกติ

อุทยานแห่งชาติฯ ยืนยัน

ยังต้องคุมเข้มเพื่อฟื้นฟู

         หลังการประท้วงของกลุ่มผู้ประกอบการเรือนำเที่ยว และผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ที่อ้างว่ากระทบต่อธุรกิจนั้น ดร.ทรงธรรม สุขสว่าง ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยังต้องดำเนินการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าเที่ยวอุทยานฯ สิมิลัน ไม่เกินวันละ 3,000 คน เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยกับปีที่ผ่านๆ มา ที่ปล่อยให้นักท่องเที่ยวทะลักเข้าวันละ 6,000-7,000 คน จนแหล่งท่องเที่ยวเสื่อมโทรม

         ส่วนในเรื่องที่ผู้ประกอบการออกมาคัดค้านการจำกัดนักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวสิมิลันครั้งนี้ โดยอ้างว่าส่งผลกระทบต่อธุรกิจเพราะเปิดจองกรุ๊ปทัวร์ล่วงหน้าแล้ว ซึ่งกรมอุทยานฯ ก็ไม่วิตกกังวลแต่อย่างใด หากยังปล่อยให้นักท่องเที่ยวเข้าไปแบบไม่จำกัด สุดท้ายแล้วอุทยานฯ สิมิลันคงต้องปิดยาวเหมือนอ่าวมาหยา หรืออุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติที่ถูกทำลายให้กลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิม

         ดร.ทรงธรรม กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมากรมอุทยานฯ ได้ประชุมรับฟังความคิดเห็นร่วมกับผู้ประกอบการกลุ่มนี้มามากว่า 1 ปี ตั้งแต่มีเรื่องนักท่องเที่ยวล้นเกาะสิมิลัน และจากการที่กรมอุทยานฯ ทำวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัยได้ข้อสรุปร่วมกันในเรื่องจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปในพื้นที่ คือนักท่องเที่ยวแบบไปกลับวันเดียว 3,325 คน แบบดำน้ำลึกวันละ 525 คน หรือบวกลบได้เล็กน้อยในปีแรก

         นอกจากนี้ยังออกมาตรการต่างๆ ควบคุมเรือท่องเที่ยวให้ปฏิบัติตามกฎกติกา ไม่ได้เพิ่งมาประกาศเพียงไม่กี่วันก่อนเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวอย่างที่เข้าใจ ทั้งนี้ในปีผ่านมามีนักท่องเที่ยวในอุทยานฯ สิมิลันมากถึง 910,000 คน เกินศักยภาพที่แหล่งท่องเที่ยวจะรองรับได้

โพลเฟซบุ๊กอุทยานฯ

วันเดียวเห็นด้วย 98%

         เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2561 กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช ได้ทำโพลออนไลน์สำรวจความคิดเห็น เรื่องการจำกัดนักท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันว่า “เห็นด้วย” หรือ “ไม่เห็นด้วย” ให้ผู้ที่ต้องการแสดงความคิดเห็น สามารถเข้าไปแสดงความคิดเห็นได้

         ผลการการสำรวจภายหลังการปิดโหวตแค่วันเดียว ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2561 เวลา 13.00 น. มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็น 903 คน โดย 98% เห็นด้วยกับการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว

         ส่วนกรณีการปิดอ่าวมาหยา และอ่าวโละซามะ ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา – หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 30 กันยายน 2561 นั้น กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พิจารณาแล้ว ปัจจุบันสถานการณ์ระบบนิเวศและโครงสร้างชายหาดบริเวณอ่าวมาหยา อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา – หมู่เกาะพีพี ยังไม่กลับคืนสู่สภาพที่สมบูรณ์ จึงอาศัยอำนาจตามความในข้อ 4 และข้อ 5 แห่งระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วยการเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2552 ขยายระยะเวลาปิดการท่องเที่ยว หรือดำเนินกิจกรรมใด ๆ ในบริเวณอ่าวมาหยา และอ่าวโละซามะ ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา – หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป จนกว่าทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลและชายฝั่งจะกลับคืนสู่สภาวะปกติ จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน

         กรณีนี้ ก็ได้มีการทำโพลด้วยเช่นเดียวกัน มีผู้ร่วมแสดงความคิดเห็น 18,589 ราย ในจำนวนนี้ 17,055 รายหรือคิดเป็น 91.7% เห็นด้วยกับการขยายเวลาปิดแหล่งท่องเที่ยว ขณะที่ 1,534 ราย หรือคิดเป็น 8.3% ไม่เห็นด้วย ซึ่งสามารถดูสรุปผลแบบ real-time ได้ที่ http://bit.ly/2y3J2sj