โบ๊ทพัฒนาเปิดโครงการใหม่ The AQUA ยอดขายทะลุ 97% มูลค่า 1,200 ล้าน ชี้ตลาดอสังหาภูเก็ตปี 69 ท้าทายสูง
โบ๊ทพัฒนาเปิดโครงการใหม่ The AQUA ยอดขายทะลุ 97% มูลค่า 1,200 ล้าน ชี้ตลาดอสังหาภูเก็ตปี 69 ท้าทายสูง
เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2568 เวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา นายสุวิทย์ พันธ์เสงี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดงาน “The AQUA Grand Opening” โครงการคอนโดมิเนียมแห่งแรกของ บริษัท โบ๊ทพัฒนา จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลใจกลาง Boat Avenue โดยมีนายบุญ ยงสกุล ประธานกรรมการ และ นายภาณุพงศ์ กริชจนรัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยทีมผู้บริหาร บริษัท โบ๊ทพัฒนา จำกัด รวมถึง เอเจนซี่ ลูกค้า พันธมิตร ภาคเอกชน และสื่อมวลชน เข้าร่วมงาน
นายสุวิทย์ พันธ์เสงี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ภูเก็ตได้ก้าวสู่การเป็นเมืองแห่ง Lifestyle Living ที่ผสมผสานการอยู่อาศัย การพักผ่อน และการทำงานได้อย่างลงตัว ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้เข้ามาใช้ชีวิตและลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากยุโรป เอเชีย ตะวันออกกลาง และออสเตรเลีย ที่เลือกให้ภูเก็ตเป็น “บ้านหลังที่สอง” ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเสริมสร้างความเข้มแข็ง ให้กับชุมชนท้องถิ่น
ด้าน นายบุญ ยงสกุล ประธานกรรมการบริษัท โบ๊ทพัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า โครงการ The AQUA Condominium บริหารโดยบริษัท Boat Pattana ถือเป็นตัวอย่างของการพัฒนาที่คำนึงถึงคุณภาพ ความสวยงามของภูมิทัศน์ และการยกระดับพื้นที่ชุมชน ให้สอดคล้องกับบริบทของเมืองชายทะเลอย่างภูเก็ต ซึ่งตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยและการลงทุนในระยะยาว
The AQUA Condominium เป็นคอนโดมิเนียมแห่งแรกของ Boat Avenue ที่ตั้งอยู่ในทำเลทองย่างเชิงทะเล ซึ่งใจกลางของโครงการจะมองเห็นได้จากทุกมุม ด้วยการออกแบบในสไตล์โมเดิร์น สะอาดตา ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมแบบ Miami ตั้งอยู่บนพื้นที่ จำนวน 2 ไร่
ส่วนจุดเด่นของโครงการ มีจำนวนห้องพักเพียงแค่ 100 ยูนิต (รวมห้องรีเทล) อาทิ ขนาดห้อง 1 – 3 ห้องนอน ในราคาเริ่มต้นที่ 8-20 กว่าล้านบาท โดยใช้งบประมาณการลงทุนโครงการ จำนวน 1,200 ล้านบาท ซึ่งยอดขาย ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 97% (เกือบปิดการขายทั้งโครงการได้แล้ว) ส่วนสถานะโครงการพร้อมโอนทันที โดยมีเอกสารสิทธิ์ครบถ้วน
นายบุญ กล่าวต่อด้วยว่า จุดขายพิเศษ คือ เป็นคอนโดแห่งแรกในภูเก็ต ที่มาพร้อมที่จอดรถให้กับลูกค้าทุกยูนิต ซึ่งที่จอดรถใต้ดินและที่จอดรถกลางแจ้ง ส่วนพื้นที่รีเทลที่ชั้นล่าง ประกอบด้วยร้านอาหาร สปา แฮร์ซาลอน และบิวตี้คลินิก บินตรงมาจากกรุงเทพฯ รวมถึงทำเลใกล้หาดบางเทาและรายัน สามารถเดินทางสะดวก เน้นคอนเซ็ปต์ความสะดวกสบาย เรียบหรูสามารถลงมาซื้อกาแฟตอนเช้าได้ง่ายๆ
ส่วนผลการตอบรับจากลูกค้า ดีเกินคาด ซึ่งกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนไทย ทำให้ส่วนที่เหลือสามารถเป็นฟรีโฮลด์ได้ทั้งหมด เรามีกลุ่มลูกค้าคนไทยจากภูเก็ตและมาจากกรุงเทพฯ (เป็นกลุ่มลูกค้าที่ใหญ่ที่สุด) ส่วนลูกค้าต่างชาติ อาทิ กลุ่มชาวรัสเซีย ยุโรป และอังกฤษ สิงคโปร์ รวมถึงคนจีน
นอกจากนี้คอนโด The AQUA Condominium แล้ว ทางบริษัท โบ๊ทพัฒนา เรายังมีโครงการคอนโดมิเนียมอื่นๆ อีก 2 โครงการ อาทิ
1. The Chardonnay ในหาน จำนวน 37 ยูนิต เปิดให้จับจองไปแล้ว ปัจจุบันมียอดขาย 98% (เหลือเพียงแค่ 2 ห้อง) มีช็อปรีเทลชั้นล่าง และสระว่ายน้ำชั้นบน มองเห็นวิวหาดในหาน ตั้งอยู่ทำเลใต้เกาะ ลูกค้าโอนพร้อมอยู่ได้ทันที
2. โครงการที่หาดสุรินทร์ (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) ปัจจุบันก่อสร้างถึงชั้น 4 แล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2569 เป็นโครงการขนาดใหญ่กว่า มีรีเทลด้านหน้าหลากหลาย ลักษณะของห้องจะมีขนาด ห้องนอนถึง 4 ห้องนอน พร้อมสระว่ายน้ำ เน้นความหรูหราในระดับสูง
นอกจากนี้ นายบุญ กล่าวถึง มูลค่ารวมทั้ง 3 โครงการ อยู่ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยตลอดระยะเวลา 17 ปีที่ผ่านมา ทางกลุ่มโบ๊ทอเวนิว มีโครงการในเครือรวมๆ ประมาณ 30 โครงการ ซึ่งมีมูลค่าและงบประมาณรวมเกือบ 20,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต จากสถานการณ์ ณ ปัจจุบันทางด้านการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตในปี 2568นี้ มีการเติบโตเพียงแค่ 5-6% จะเห็นได้ว่าลดลงจากปีก่อน ที่มีการเติบโตสูงถึง 10-15% สาเหตุหลักๆมาจากปัจจัยทางด้านราคาที่ดินราคาสูงขึ้น ราคาค่าวัสดุก่อสร้างที่มีการปรับเพิ่มขึ้น รวมถึงการเข้ามาของผู้ประกอบการจากที่อื่นมีการแข่งขันที่มากขึ้น
ในส่วนนักลงทุนในช่วงนี้ที่มีเงินเย็นส่วนใหญ่จะลงทุนการซื้อที่ดินเก็บไว้ ยังไม่ไม่ได้ทำโครงการหรือซื้อทำอะไร แต่ซื้อเพื่อเก็บไว้ก่อน เพราะราคาที่ดินปรับขึ้นต่อเนื่อง ข้อได้เปรียบคือ ภูเก็ตมีทั้งคอนโด โรงเรียน โรงพยาบาล เพราะฉะนั้นนี่คือความโชคดีของภูเก็ต ณ ปัจจุบันนี้มองภาพรวม ภูเก็ตมีคอนโดที่สร้างอยู่ ประมาณ 5000-6000 ยูนิต แต่ขายได้จริงๆอยู่ที่ประมาณ 60-70% ตอนเริ่มขายอาจจะขายเพื่อที่จะเกร็งกำไร แต่พอขายจริงอาจจะไม่ได้มีการโอน เพราะอย่างของทางโบ๊ทพัฒนา เราขายพร้อมโอน ลูกค้าที่จะมาซื้อก็อาจจะยังไม่พร้อมก็ได้ จาการสังเกตหลายๆโครงการ ถ้าคอนโดขายไม่หมด ก็มีการปรับเปลี่ยนเป็นโรงแรมไปเลย เพื่อหาทางแก้ปัญหา เพราะฉะนั้นจึงมีหลายคอนโดเหมือนกันที่ขายไม่หมด หรือ บางคอนโดที่เราไม่รู้ คือ ตัวเองขาดสภาพคล่องก็เปลี่ยนมือผู้บริหารใหม่มาดูแลรับช่วงต่อ
ส่วนการปล่อยสินเชื่อจากธนาคาร ก็มีความเข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะกับลูกค้ารายใหม่ๆ เนื่องจากปัจจัยหลังโควิด-19 และความไม่แน่นอนจากสงครามระหว่างประเทศ ส่วนลูกค้าเก่าๆ ที่มีกำลังจ่ายยังได้รับการสนับสนุน แต่คาดการณ์ว่าในปี 2569 จะมีความท้าทายและการแข่งขันแบบดุเดือดมากขึ้น จำนวนผู้พัฒนาเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า ในขณะที่ผู้ซื้อยังคงเท่าเดิม ส่วนผู้ประกอบการมือสมัครเล่นหรือที่ขาดประสบการณ์ในตลาดภูเก็ต มีความเสี่ยงสูง ทั้งนี้ บริษัทมหาชนหลายรายที่เข้ามาต้องถอนตัว เนื่องจากไม่เข้าใจตลาดต่างชาติและการทำงานกับเอเจนท์
ส่วนการเติบโตตลาดอสังหาริมทรัพย์คาดว่าจะต่ำกว่าปี 2568 เนื่องจากปัจจัยเศรษฐกิจและการเมือง โอกาสของนักพัฒนาท้องถิ่นที่มีที่ดินเดิม มีฐานลูกค้า และความเชี่ยวชาญในเรื่องกฎหมายท้องถิ่น ยังคงมีความได้เปรียบอยู่ ทั้งเรื่องของทำเลทอง อย่างทางของ Boat Avenue ยังคงมีศักยภาพ ส่วนพื้นที่ใต้เกาะ (ฉลอง ราไวย์ ในหาน ) และโซนไม้ขาวกำลังเติบโต โดยเฉพาะเมื่อโครงสร้างพื้นฐานแล้วเสร็จ ราคาที่ดินคาดว่าจะพุ่งขึ้นอีกประมาณ 5% เนื่องจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่มีทั้งโรงเรียน และ โรงพยาบาล
ถ้าพูดถึง พฤติกรรมของผู้ซื้อ กลุ่มเป้าหมายหลักเป็นตลาดกลางขึ้นไปทางบน ราคาเริ่มต้นที่ 6-20 ล้านบาท ผู้ซื้อจะมองหาช่องทางในการลงทุนที่ปลอดภัยกว่าฝากเงินกับธนาคาร เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยต่ำและมีความกังวลในเรื่องการฉ้อโกง ส่วนกลุ่มอาชีพที่มั่นคงที่ยังพอมีกำลังซื้อ อาทิ กลุ่มแพทย์ ส่วนตลาดล่าง ระดับราคาเริ่มต้นที่ 2-3 ล้านบาท ทำให้โครงการขายออกยากขึ้น เนื่องจากปัญหาทางด้านสินเชื่อไม่ผ่าน จะเห็นได้ว่าตลาดนักท่องเที่ยวภูเก็ต มีความหลากหลายของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น จากการมีเที่ยวบินตรงมาจากหลายประเทศ อาทิ อิสราเอล ปากีสถาน มองโกเลีย คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนจะกลับมาเพิ่มขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้ นายบุญ ยังได้กล่าวสรุปถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ยังดีกว่ากรุงเทพฯ เชียงใหม่ และพัทยา ที่มีความหลากหลายของนักลงทุนจากทั่วโลก โครงสร้างพื้นฐานครบครัน มีทั้ง โรงเรียน และ โรงพยาบาล ทำให้ผู้คนอยู่ยาวขึ้น แต่ข้อควรระวัง ทางด้านการแข่งขันที่มีความรุนแรงขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการที่ขาดประสบการณ์ ผู้พัฒนาจะต้องเข้าใจตลาดต่างชาติ และการทำงานกับเอเจนท์ รวมถึงการออกแบบที่ถูกใจตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ส่วนทางด้าน สถาบันการเงินมีความเข้มงวดมากขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของนักลงทุน ควรโฟกัสโครงการขนาดเล็ก หรือขนาดกลาง ที่เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณและจะต้องอยู่ในทำเลที่ดี มีการออกแบบให้เหมาะสม ทั้งนี้ การบริหารจัดการที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญ ส่วนการสร้างความไว้วางใจของแบรนด์ในระยะยาว
โครงการ The AQUA Condominium ถือเป็นตัวอย่างของความสำเร็จที่ตอบโจทย์ทางการตลาด ทั้งเรื่องของที่ตั้งอยู่ในทำเลดี การออกแบบที่โดดเด่น และฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ต่อความต้องการ จนสามารถขายได้ 97% แม้ในช่วงที่ตลาดมีความท้าทาย สะท้อนถึงการผู้พัฒนาที่มีความเข้าใจในตลาดและมีกลยุทธ์ที่ชัดเจน ถึงจะสามารถประสบความสำเร็จได้
#ภูเก็ตอสังหาริมทรัพย์ #TheAQUA #โบ๊ทพัฒนา #BoatAvenue #คอนโดภูเก็ต #ลงทุนอสังหา #LifestyleLiving #ตลาดอสังหาไทย #พร็อพเพอร์ตี้ภูเก็ต #อสังหา2569 #PhuketProperty #PhuketRealEstate #คอนโดหรู #การลงทุนภูเก็ต #ตลาดอสังหาปี69

































