📰 ผู้ประกอบการ “กัญชาภูเก็ต” ยื่นข้อเรียกร้องถึงพรรคภูมิใจไทย แก้กฎหมายไม่ให้ผู้ปลูก-ผู้ใช้ตกเป็น “แพะรับบาป”

📰 ผู้ประกอบการ “กัญชาภูเก็ต” ยื่นข้อเรียกร้องถึงพรรคภูมิใจไทย แก้กฎหมายไม่ให้ผู้ปลูก-ผู้ใช้ตกเป็น “แพะรับบาป”

                 เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 68 เวลา 15.00 น. ที่ไม้ขาวพลาซ่า อ.ถลาง จ.ถูเก็ต กลุ่มผู้ประกอบการฟาร์มกัญชา GACP GAP+COA ในจังหวัดภูเก็ต นำโดย นายสุรศักดิ์ จิตรบุญ เจ้าของฟาร์ม Cannavation ร้าน Phuket High พร้อมผู้ประกอบการได้เข้ายื่นหนังสือต่อ นายวิวัฒน์ จินดาพล ตัวแทนประสานงานพรรคภูมิใจไทยประจำจังหวัดภูเก็ต เพื่อสะท้อนปัญหาและข้อเรียกร้องเกี่ยวกับกฎหมายกัญชาที่กำลังสร้างผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อผู้ประกอบการ นักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไป

                นายสุรศักดิ์ จิตรบุญ เจ้าของฟาร์ม Cannavation ร้าน Phuket High เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการกัญชาถูกมองว่าเป็นแพะรับบาป ต่อปัญหาการท่องเที่ยวซบเซา โดยเฉพาะประเด็น “กลิ่นกัญชา” และ “การสูบในที่สาธารณะ” ทั้งที่ตามกฎหมายเดิมก็ได้ระบุชัดแล้วว่าห้ามสูบในร้านหรือพื้นที่สาธารณะ แต่กลับถูกนำไปเชื่อมโยงจนกลายเป็นภาพลบต่อธุรกิจท่องเที่ยวและผู้ประกอบการ

                 นอกจากนี้ กฎหมายล่าสุดยังสร้างความสับสน เช่น การกำหนดให้ผู้ใช้ทั่วไปต้องกลายเป็น “ผู้ป่วย” และการปิดโอกาสให้ผู้ปลูกรายย่อยแข่งขันในตลาดได้ เนื่องจากมีเงื่อนไขด้านมาตรฐานที่สูงเกินไป ทั้ง GACP, GAP และ COA ทำให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กไม่สามารถอยู่รอดได้ในระยะยาว

                 พร้อมกันนี้ ได้มีการเชิญฟาร์มกัญชาที่ได้รับรองมาตรฐานจากกรมการแพทย์แผนไทยทั่วประเทศ เช่น เชียงราย เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี โคราช และอีกหลายจังหวัด มาร่วมออกบูธนำเสนอสินค้า ทั้งกัญชง กัญชา และผลิตภัณฑ์แปรรูป เพื่อให้ผู้ประกอบการภูเก็ตได้คัดเลือกไปจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวไฮซีซั่นที่จะมาถึงนี้

                 นอกจากนี้ กลุ่มผู้ประกอบฟาร์มกัญชา ยังได้มีการสะท้อนเกี่ยวกับการเข้าถึงกัญชากลับยากขึ้นโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน ทั้งที่กฎหมายเดิมก็มีข้อห้ามเพียงพอแล้ว เช่น ห้ามขายให้เด็กและกลุ่มเปราะบาง สิ่งที่เรียกร้อง คือ การมีกฎหมายระดับพระราชบัญญัติที่ชัดเจน โปร่งใส ไม่เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุนใดกลุ่มหนึ่ง และควรคุ้มครองสิทธิผู้ที่ใช้เพื่อการรักษาตัวเอง พร้อมมาตรการที่ชัดเจน ได้แก่
1. ระบบการจัดเก็บภาษีที่เหมาะสม
2. การออกใบอนุญาตร้านค้าอย่างรัดกุม
3. การกำหนดบทลงโทษที่มาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ

                ทั้งนี้ ผู้ประกอบการยืนยันว่า พร้อมปฏิบัติตามกฎหมายที่ถูกต้อง และเห็นด้วยหากกำหนดให้กัญชาใช้เพื่อการแพทย์ 100% แต่ต้องไม่สร้างภาระที่เกินความจำเป็น พร้อมเรียกร้องให้สังคมและสื่อมวลชนช่วยนำเสนอข้อเท็จจริง ไม่บิดเบือนว่ากัญชาเป็นสาเหตุของอาชญากรรม เพราะผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่เคยขายให้เด็กและยึดหลักการค้าที่ถูกต้อง

                  นายสุรศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า ปัจจุบัน จังหวัดภูเก็ตมีร้านกัญชาที่ได้รับใบอนุญาตถูกต้องประมาณ 15–20 ร้าน แต่จากการสำรวจคาดว่ามีร้านจริงมากกว่า 2,000 ร้าน กระจุกตัวในย่านท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ป่าตอง เชิงทะเล ราไวย์ ในหาน และตัวเมืองภูเก็ต โดยลูกค้าหลักกว่า 99% เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากประเทศที่มีกฎหมายกัญชาก้าวหน้า เช่น ออสเตรเลีย สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นระดับกลางถึงสูงและมีกำลังซื้อสูง ส่วนมากจะมาพักอาศัยระยะยาว 1–3 เดือน

สำหรับ ข้อมูลใบอนุญาตร้านกัญชาปัจจุบัน
จำนวนใบอนุญาตที่ Active: 1,525 ร้าน
จำนวนร้านที่ขออนุญาตปี 2565: 850 ร้าน (ต่ออายุปลายปี 2567 จำนวน 188 ร้าน)
จำนวนร้านที่ขออนุญาตปี 2566: 957 ร้าน (หมดอายุปลายปีนี้)

ข้อเรียกร้องสำคัญที่ผู้ประกอบการเสนอ ดังนี้
1. ผลักดัน พระราชบัญญัติกัญชา ที่ชัดเจนและครอบคลุม
2. ยกเลิก กฎกระทรวงล่าสุด ที่สร้างภาระต่อผู้ใช้และผู้ปลูกรายย่อย โดยระบุว่า หากนักท่องเที่ยวต้องใช้ใบสั่งแพทย์เพื่อซื้อกัญชา ย่อมเป็นไปได้ยาก และจะยิ่งผลักให้เกิดการซื้อขายใต้ดิน ซึ่งเป็นปัญหาที่แท้จริงในปัจจุบัน

              จากการวิเคราะห์ โดยเสียงสะท้อนของผู้ประกอบการกัญชาภูเก็ตในครั้งนี้ สะท้อนชัดว่ากฎหมายที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงในพื้นที่ท่องเที่ยว อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และผู้ปลูกรายย่อย การเร่งผลักดันกฎหมายระดับพระราชบัญญัติ ที่เป็นกลางและโปร่งใส จึงเป็นทางออกสำคัญ เพื่อสร้างสมดุลทั้งด้านสุขภาพ การควบคุมสังคม และเศรษฐกิจท่องเที่ยวต่อไป

📌 #กัญชาภูเก็ต #ผู้ประกอบการกัญชา #ภูเก็ตท่องเที่ยว #พรรคภูมิใจไทย #กฎหมายกัญชา #Phuket