🔴🚩 “เฉลิมชัย” ชื่นชมผลสำเร็จมาตรการแก้วิกฤตพะยูนและแหล่งหญ้าทะเล หลังพบพะยูนหากินเกาะลิบง 25 ตัว ฝากทุกฝ่ายร่วมอนุรักษ์ดูแลต่อเนื่อง ให้พะยูนอยู่คู่ทะเลไทยต่อไป
🔴🚩 “เฉลิมชัย” ชื่นชมผลสำเร็จมาตรการแก้วิกฤตพะยูนและแหล่งหญ้าทะเล หลังพบพะยูนหากินเกาะลิบง 25 ตัว ฝากทุกฝ่ายร่วมอนุรักษ์ดูแลต่อเนื่อง ให้พะยูนอยู่คู่ทะเลไทยต่อไป
วันที่ 3 พฤษภาคม 2568 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เปิดเผย ระหว่างลงพื้นที่ตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายหาดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ถึง กรณีที่ศูนย์ศึกษาและวิจัยอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 3 (ตรัง) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) สำรวจพบ พะยูนถึง 25 ตัว เข้ามาหากินหญ้าทะเลบริเวณเกาะลิบง และเกาะมุกด์ ในทะเลตรัง ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีของความพยายามแก้ไขปัญหาวิกฤตพะยูนและหญ้าทะเล ความสำเร็จที่เกิดขึ้นต้องขอขอบคุณความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งกรมอุทยานฯ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ตลอดจนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และกลุ่มเครือข่ายต่าง ๆ ที่ร่วมมือกันดำเนินการตามมาตรการแก้ไขปัญหาวิกฤตพะยูนและหญ้าทะเลอย่างจริงจัง ตลอด 4-5 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่ที่ได้มีการลงไปพบปะพูดคุยกันที่เกาะลิบง เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2567
ดร.เฉลิมชัย กล่าวต่อว่า การที่พบพะยูนสุขภาพดีกลับมาหากินที่บริเวณเกาะลิบง และเกาะมุกด์ เป็นจำนวนมากเช่นนี้ แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งหญ้าทะเล ที่เป็นแหล่งอาหารหลักของพะยูน ซึ่งจากการสำรวจก็พบว่าหญ้าทะเลในพื้นที่ดังกล่าวมีการเติบโตและขยายตัวจากการแตกยอดอ่อน รวมถึงพะยูนที่พบ ก็มีพะยูนแม่ลูก ที่แสดงให้เห็นว่า พะยูนในทะเลไทยยังคงมีการขยายพันธุ์ เป็นแนวโน้มที่ดี และเป็นกำลังใจให้กับทุกฝ่ายในการร่วมกันอนุรักษ์ดูแลพะยูน รวมถึงอนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเลตามธรรมชาติให้มีความอุดมสมบูรณ์ เพื่อให้ยังคงมีพะยูนอยู่คู่กับทะเลไทยต่อไป
“จึงอยากขอฝากไปยังทุกฝ่าย ทั้งเจ้าหน้าที่ของ อส. และ ทช. ในระดับพื้นที่ ไปจนถึงพี่น้องประชาชน ชุมชนในพื้นที่ และกลุ่มเครือข่ายต่าง ๆ ที่มีความตั้งใจดีในการร่วมอนุรักษ์พะยูนและสัตว์ทะเลหายาก ให้ยังคงมุ่งมั่นร่วมมือกันทำงานอย่างเข้มแข็ง เพื่อรักษาแหล่งหญ้าทะเลให้มีความมั่นคงสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และรักษาจำนวนประชากรพะยูนในทะเลภาคใต้ของไทยให้มีมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของพี่น้องชุมชนในท้องถิ่น และผมพร้อมเป็นกำลังใจและสนับสนุนสิ่งจำเป็นให้กับทุกฝ่าย เพื่อให้การทำงานอนุรักษ์พะยูนและการฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเลเกิดผลสำเร็จยิ่งขึ้นต่อไป“