“พิพัฒน์” ลุยภูเก็ต ดัน 9 โปรเจกต์คมนาคมยักษ์ 1.3 แสนล้าน พลิกโฉมเมืองสู่ฮับอันดามัน

 

“พิพัฒน์” ลุยภูเก็ต ดัน 9 โปรเจกต์คมนาคมยักษ์ 1.3 แสนล้าน พลิกโฉมเมืองสู่ฮับอันดามัน

          วันนี้ (20 ต.ค. 2568) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมประชุมติดตามความคืบหน้า “9 โครงการคมนาคมขนาดใหญ่” มูลค่ารวมกว่า 130,000 ล้านบาท ที่มุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางบก น้ำ และอากาศ เพื่อยกระดับการเดินทางและโลจิสติกส์ ปูทางสู่การเป็นศูนย์กลางการคมนาคมฝั่งอันดามัน โดยมี นายศรัณย์ศักด์ ศรีเครือเนตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายกองเอก อดุลย์ ชูทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายสมาวิษฎ์ สุพรรณไพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายเรวัติ อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการและภาคเอกชนในพื้นที่ ร่วมให้การต้อนรับและหารือแนวทางขับเคลื่อนแผนงานอย่างใกล้ชิด

        สำหรับ 9 โปรเจกต์เปลี่ยนอนาคตภูเก็ต นายพิพัฒน์ เปิดเผยว่า ทุกโครงการถือเป็น “เกมเชนเจอร์” ของภูเก็ตในอีก 5 ปีข้างหน้า เช่น
• โครงการอุโมงค์กะทู้–ป่าตอง คาดเปิดใช้ปี 2573 จะช่วยย่นระยะเวลาเดินทางจากสนามบินถึงป่าตองเหลือเพียง 20 นาที
• รถไฟฟ้าสายสนามบิน–ห้าแยกฉลอง จะพลิกโฉมการเดินทางในเมือง
• ทางพิเศษเมืองใหม่–เกาะแก้ว–กะทู้ ช่วยคลายปมรถติดในเมืองหลัก

         พร้อมกันนี้ ยังเร่งดำเนินโครงการขยาย ท่าอากาศยานภูเก็ต เฟส 2 จากเดิมรองรับผู้โดยสาร 12.5 ล้านคนต่อปี เพิ่มเป็น 18 ล้านคนต่อปี เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เติบโตต่อเนื่อง และหนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือ โครงการพัฒนาท่าเรือรองรับเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise Terminal) และ ท่าเรืออันดามัน เชื่อมโยง 3 จังหวัด คือ ภูเก็ต–พังงา–กระบี่ เพื่อหนุนการท่องเที่ยวระดับพรีเมียม ตอบโจทย์กลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพจากทั่วโลก และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจแก่ท้องถิ่น

           นายพิพัฒน์ ย้ำว่า เป้าหมายของกระทรวงคมนาคมคือการยกระดับภูเก็ตให้เป็น “Smart Mobility Hub” ที่สมบูรณ์แบบที่สุดของอันดามัน โดยอาศัยความร่วมมือจากภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้ทุกโครงการเห็นผลเป็นรูปธรรม “ภูเก็ตไม่ใช่เพียงเมืองท่องเที่ยว แต่จะเป็นเมืองต้นแบบด้านคมนาคม โลจิสติกส์ และการเดินทางของอนาคต”

           ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการเพิ่มเติมให้ จังหวัดภูเก็ตร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ดำเนินการปราบปราม รถแท็กซี่ป้ายดำผิดกฎหมาย ในพื้นที่โดยเร่งด่วน เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ขับขี่ที่ปฏิบัติตามกฎหมาย และเพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการ

           นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้ กระทรวงคมนาคม ตรวจสอบและกำกับดูแล ผู้ประกอบการแอปพลิเคชันให้บริการรถโดยสาร ที่มีการร้องเรียนจากประชาชน เพื่อให้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยจะให้หน่วยงานส่วนกลางตรวจสอบข้อมูลและดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและความปลอดภัยกับผู้ใช้บริการและผู้ขับรถรับจ้างสาธารณะโดยเร็วที่สุด

          นายพิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากโครงการทั้งหมดแล้วเสร็จภายในปี 2573 “ภูเก็ตจะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการคมนาคมและการท่องเที่ยวระดับโลกของฝั่งอันดามันอย่างเต็มภาคภูมิ”