Author: jintana Jitlang

     โลกโซเชียลวิจารณ์กันหนัก จนฉาวโฉ่กรณีวัดพระนางสร้าง นำเอา “หลวงพ่อแช่ม” เกจิ แห่งวัดฉลอง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวภูเก็ต ไปสร้างเป็นรูปหล่อผิดสัดส่วน ไม่มีความเหมือนดั้งเดิม ทั้งยังอุตริพิเรนทร์สร้างรูปปูนปั้นองค์พระต่างๆ และสารพัดสัตว์ รวมทั้งยักษ์ถือปืน ล่าสุด อดีต ส.ส.ภูเก็ตผู้มีจิตศรัทธาต่อองค์หลวงพ่อแช่มยื่นตรวจสอบแล้ว

          จากกรณีมีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ “สหายไร้ตัวตน” ได้เผยแพร่ข้อความและภาพของ “หลวงพ่อแช่ม” พระเกจิดังและศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพนับถือของชาวภูเก็ต โดยเป็นรูปหล่อขนาดใหญ่ บริเวณหน้าวัดพระนางสร้าง หมู่ที่ 1 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ผ่านทางโซเชียลมีเดียต่างๆ พร้อมตั้งคำถามว่า “คนภูเก็ตเห็นแล้วจะรู้สึกอย่างไร?” ส่งผลให้มีผู้แสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์ว่า องค์พระที่ก่อสร้างขึ้นนั้นมีสัดส่วนที่ไม่สมส่วน และไม่มีความเหมือนหรือคล้ายกับรูปหล่อหลวงพ่อแช่มวัดฉลอง (วัดไชยธาราราม) ที่เคยมีการสร้างกันมา นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอภาพรูปปั้นยักษ์ถือปืนหน้าพระอุโบสถภายในวัดซึ่งดูไม่ค่อยเหมาะสม ซึ่งก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา พร้อมเรียกร้องให้แก้ไขหรือทุบทิ้ง

    เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 28 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.สมเกียรติ สารสิทธิ์ รองสว.(สอบสวน) สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต นำตัว นายสุธน กล้าสมุทร์ อายุ 35 ปี พนักงานขับรถของบริษัทอัน ซิ่น ทัวร์ จำกัด ส่งฟ้องศาลจังหวัดภูเก็ตในข้อหา “เป็นผู้ขับขี่รถรถสาธารณะเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) โดยผิดกฎหมาย”  หลังจากคลุ้มคลั่งทำร้ายนักท่องเที่ยว-ประชาชนบริเวณจุดชมวิวกังหันลม ม.6 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ตเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นก่อนหน้านั้น (วันที่ 27 ตุลาคม) พ.ต.ท.สุธรรม รัตนสว่างวงศ์ รองผกก.ป.สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต รับแจ้งว่ามีเหตุคนขับรถทัวร์คลุ้มคลั่งทำร้ายนักท่องเที่ยว-ประชาชนบริเวณจุดชมวิวกังหันลม ม.6 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต จึงเดินทางไปตรวจสอบระงับเหตุ พร้อมด้วย ร.ต.อ.สมเกียรติ กังวานเกียรติกุล รองสว.สภ.ฉลอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกจำนวนหนึ่ง ที่เกิดเหตุมี นายธีรพงศ์ เถาว์แดง รองนายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ และเจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลตำบลราไวย์ และเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลราไวย์ กำลังเกลี้ยกล่อมชายคลุ้มคลั่งดังกล่าว เห็นนักท่องเที่ยวกำลังแตกตื่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่จึงประกาศให้นักท่องเที่ยวและบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องอยู่ห่างไกลชายคนดังกล่าว ก่อนเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธไม้ที่อยู่ในมือ