กรณ์​ หัวหน้าพรรคกล้า​ ประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับแกนนำพรรคกล้าในพื้นที่ถลางและจังหวัดภูเก็ต เฟ้นหาตัวผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ภูเก็ต ในนาม​ “พรรคกล้า”

กรณ์​ หัวหน้าพรรคกล้า​

ประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับแกนนำพรรคกล้าในพื้นที่ถลางและจังหวัดภูเก็ต

เฟ้นหาตัวผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ภูเก็ต ในนาม​ “พรรคกล้า”

 

               เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา​ ณ​ โรงแรม​อังสนา​ภูเก็ต​ นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและรับฟังข้อเสนอแนะต่างๆ กับผู้นำชุมชนในพื้นที่ อ.ถลาง รวมถึงการประชุมร่วมกับแกนนำพรรคกล้าในพื้นที่ถลาง และจังหวัดภูเก็ต เพื่อเฟ้นหาตัวผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ภูเก็ต ในนามพรรคกล้า โดยมีนายเทมส์ ไกรทัศน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต พรรคกล้า และแกนนำพรรคกล้า เข้าร่วม เกี่ยวกับการลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต ว่า นับเป็นโอกาสที่ดีในระหว่างการเข้าโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ หลังจากที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ซึ่งต้องอยู่ในภูเก็ตเป็นเวลา 7 วัน จึงใช้ช่วงเวลานี้ลงพื้นที่พบปะพูดคุยรับฟังความคิดเห็นจากคนภูเก็ต ทั้งกลุ่มประชาชนทั่วไป นักธุรกิจ ผู้นำท้องถิ่น และผู้นำชุมชนต่างๆ รวมทั้งได้มีโอกาสร่วมประเพณีถือศีลกินผัก ซึ่งถือเป็นประเพณีที่สำคัญของคนภูเก็ตด้วย

             “จากการลงพื้นที่และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับกลุ่มต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ทราบว่าขณะนี้คนภูเก็ตกำลังประสบกับปัญหาปากท้องและปัญหาเศรษฐกิจ เนื่องจากภูเก็ตต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก แต่หลังจากเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ทั่วโลกและประเทศไทยทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ ดังนั้น​ เรื่องของโอกาสการทำมาหากินจึงเป็นเรื่องสำคัญ และจะสามารถขับเคลื่อนเดินหน้าต่อในอนาคตอย่างไร ซึ่งทางพรรคกล้าให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะหากเศรษฐกิจดี ทุกคนมีรายได้ จะทำให้การพัฒนาด้านสังคมง่ายขึ้นด้วย และเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของพรรคกล้า และถือเป็นความถนัดของพรรคกล้าด้วย เพราะเราได้รวมผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ ตั้งแต่ระดับมหภาคไปจนถึงระดับฐานราก และมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยด้วย โดยเฉพาะภูเก็ตซึ่งมีจุดขายในหลายๆเรื่อง ทั้งทรัพยากรธรรมชาติ อาหารการกิน ประเพณีวัฒนธรรม รวมโอกาสทางการกีฬา ซึ่งสามารถต่อยอดและขยายผลทางเศรษฐกิจ เพื่อสร้างรายได้ให้คนภูเก็ตต่อไป แต่ที่ผ่านมาภูเก็ตต้องเสียโอกาสเพราะเจอกับดักทางการเมือง”

               นายกรณ์ กล่าวด้วยว่า การผลักดันให้ภูเก็ตจัดการตัวเอง โดยมีผู้ว่าฯมาจากการเลือกตั้ง เป็นนโยบายหลักสำคัญ​ สำหรับภูเก็ตที่เราได้ประกาศไปแล้ว เพราะเป็นเงื่อนไขที่จะทำให้คนภูเก็ตสามารถทำมาหากินได้เต็มศักยภาพมากขึ้นในอนาคต เพราะที่ผ่านมาคำสั่งต่างๆ หรือ​ นโยบายที่มาจากส่วนกลาง ไม่ตอบโจทย์ความเป็นภูเก็ตเท่าที่ควร ยกตัวอย่างโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งเป็นการผลักดันจากภูเก็ตไปสู่ส่วนกลาง จนกลายมาเป็นนโยบายและมีการกำหนดเงื่อนไขต่างๆมากมาย จนทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาน้อยเดือนละไม่ถึง 1 หมื่นคน จากเดิมเดือนละร่วมล้านคน ทำให้รายได้ไม่สามารถกระจายถึงทุกกลุ่ม จึงมองว่า ณ ขณะนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมในการจะผลักดันให้ภูเก็ตเป็นเมืองพิเศษในการบริหารจัดการและกำหนดนโยบายจากในพื้นที่ไปยังส่วนกลาง เพราะทราบสภาพปัญหาความต้องการของคนในพื้นที่ได้อย่างแท้จริง รวมไปถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ​ จะทำได้คล่องตัวมากกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนที่เกิดขึ้นตลอดเวลา และมุ่งไปสู่การเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก

               อย่างไรก็ตาม​ นายกรณ์ ได้กล่าวถึง​ การวางตัวผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ภูเก็ต ในนามพรรคกล้า ว่าการก่อตั้งพรรคกล้า เป็นการผสมผสานระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ เพราะเราต้องการสร้างพรรคการเมืองที่รวมคนหลากหลายอาชีพ มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่สร้างสรรค์ และเป็นคนที่มีแนวความคิดเดียวกัน พรรคกล้าเป็นแพลตฟอร์มที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และอยากเห็นการเมืองที่สร้างสรรค์ อยากเห็นการแข่งขันที่ปราศจากการซื้อเสียง ทำให้คนรุ่นใหม่มีโอกาสทางการเมืองมากขึ้น ดังนั้นในชการเลือกส่งผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งทางพรรคได้วางเป้าหมายที่จะส่งผู้ลงสมัครครบทุกจังหวัด ส่วนของภูเก็ตก็ส่งครบทั้ง 3 เขต โดยขณะนี้เราได้ผู้สมัครแล้ว 1 คน ส่วนที่เหลืออีก 2 เขต อยู่ระหว่างการพูดคุย ซึ่งรอเวลาที่เหมาะสมเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง