จุดจบคนทำแบบไม่คิด!

          คดีทุจริตรับจำนำข้าวในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย ได้เดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เมื่อวันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม 2560

          เพราะจากเดิมตามการนัดหมาย อดีตนายกรัฐมนตรีต้องมาฟังคำพิพากษาในคดีที่ปล่อยปละ ละเลยให้มีการทุจริตการจำนำข้าวและสร้างความเสียหายให้กับประเทศเป็นมูลค่านับแสนล้านบาท แต่จำเลยในคดีนี้ คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่มาฟังคำพิพากษาที่ศาล โดยอ้างว่าป่วยเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน ทำเอาบรรดาญาติพี่น้องและกองเชียร์คนเสื้อแดงต้องรอเก้อไปตามกัน

          แต่ในวันเดียวกัน คดีทุจริตจำนำข้าวก็มีคำพิพากษาออกมา หวยออกที่ บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดนจำคุกไป 42 ปี พร้อมกับพวกที่ร่วมขบวนการก็โดนโทษลดหลั่นกันออกไป แถมศาลไม่ให้ประกันตัวต้องเดินคอตกเข้าคุกไป

          สองคดีนี้อยู่ในความสนใจของคนทั้งประเทศ เพราะมันเป็นอภิมหาโคตรโกงงบประมาณของชาติกว่าแสนล้านบาท คิดง่าย ๆ ว่าใครจะแถใครจะเถียงเข้าข้างอย่างไร วันนี้ ศาลตัดสินแล้วผิดจริง โกงจริง และประเทศชาติเราเสียหายไปแล้ว

          รัฐบาลยิ่งลักษณ์อาจเอาสีข้างเข้าถูแล้วบอกว่า จำนำข้าวเป็นการช่วยชาวนาให้ได้รับประโยชน์ นั่นคือพูดถูกใจแต่ไม่ถูกต้อง เพราะการรับจำนำข้าวตันละ 15,000 บาท ทั้ง ๆ ที่ราคาจริง ๆ ในตลาดมันไม่ถึง รัฐบาลต้องเอาเงินงบประมาณจากภาษีอากรของคนไทยทั้งประเทศ ทุกอาชีพไปรับจำนำข้าว มันไม่ถูกต้อง

           เงินแสนล้านที่ประเทศชาติสูญเสียไป ถ้าเอาไปสร้างโรงพยาบาล โรงเรียน น่าจะสร้างได้เป็นหมื่นแห่ง แต่เงินจำนวนนี้อันตรธานหายเข้ากระเป๋าคนโกงบ้านโกงเมือง ไปแล้วไปลับไม่กลับมา

           เรื่องใครผิดใครถูกนั้น เราต้องยอมรับและถือเอาคำตัดสินของศาลเป็นอันยุติ เพราะจะเอาคำตัดสินที่ถูกใจใคร ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้

           เอาง่าย ๆ ว่า การเรียกร้องของมวลชนกลุ่มเสื้อแดงได้คิดแบบ “เลือกปฏิบัติ” อย่างเห็นได้ชัด คดีอดีตนายกรัฐมนตรี สมชาย วงศ์สวัสดิ์ กับพวก สลายการชุมนุมของพันธมิตร เมื่อปี 2553 ศาลตัดสินเป็นบวกกับอดีตนายกรัฐมนตรีที่เป็นฝ่ายคนเสื้อแดง ก็บอกว่าตัดสินดี ยุติธรรม แต่พอคดีนี้ตัดสินแล้วไม่ถูกใจ ก็ไม่ยอมรับเสียแบบนี้ บ้านเมืองไทยนี้อยู่ยาก เข้าใจยากจริง ๆ

           การที่ลูกน้องโดนจับเข้าคุก ในขณะที่ลูกพี่หนีเอาตัวรอดคุกไปได้ มองในมุมหนึ่ง ก็คงคล้ายกับเป็นการเล่นหมากรุก ที่เข้าตาจน ตัวขุนต้องหนีเอาตัวรอด ปล่อยให้หมากตัวอื่นในกระดานโดนกินไปก่อน ค่อยมาหาทางสู้กันใหม่

          แต่สำหรับในชิวิตจริงของคนเรา หากว่าเราเป็นลูกน้องใคร ทำงานแบบสู้ตายถวายหัวแล้ว เกิดพลั้งพลาดอะไรขึ้นมา แทนที่หัวหน้าจะมาปกป้องช่วยเหลือเรา กลับปล่อยให้เราถูกจับเข้าคุกเข้าตารางไป โดยที่ตัวหัวหน้าหนีลอยนวลไปแบบนี้ มันดูไม่สง่างาม ไม่ได้ใจลูกน้องเลย

          แน่นอนว่า บรรดามวลชนคนเสื้อแดง ถึงทุกวันนี้อาจยังคงยึดมั่นกับอดีตนายกรัฐมนตรีพี่น้องคู่นี้อยู่ แต่จะไม่มีสั่นคลอนบ้างเลยหรือ คือทำผิดแล้วหนีคดีแบบนี้ ปล่อยทิ้งให้ลูกน้อง ลูกจ้าง ต้องถูกจับเข้าคุกตารางหัวโตแบบนี้ ยังมีใครจะกล้าเสียสละมาทำงานให้อีกหรือ นอกจากพวกที่หวังลาภ ยศ อำนาจจอมปลอม

           คิดกันง่าย ๆ ถ้า ทักษิณ ชินวัตร ไม่ผิดจริง และศาลไม่ยุติธรรมจริงจนทำให้ฝ่ายการเมืองครอบงำได้แล้ว ทำไมช่วงเวลาที่ยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรีตั้งสองปี จึงไม่สามารถช่วยให้ทักษิณพ้นผิด หรือนิรโทษกรรมกลับมาอยู่เมืองไทยได้

           วิธีคิดในการทำงานแบบ “ทักษิณคิด ยิ่งลักษณ์ทำ” คือ คนหนึ่งคิดอีกคนหนึ่งทำ อาจได้ผลดีในกรณีคนทำเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ แต่การทำอะไรไปโดยไม่ได้คิดเอง ทำตามที่เขาคิดมาให้เสร็จ ทำไปแล้วค่อยมาหาทางหนีทีไล่ มาแก้ปัญหากันทีหลัง จึงต้องมีจุดจบแบบน่าอนารถใจเช่นนี้

                                ……………………………………………………………………………………………………………..