ชมการบริหารขยะภูเก็ต ว่าท้องถิ่นอื่นควรเอาอย่าง

    ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ภูเก็ต ติดตามดูการดำเนินงานการบริหารจัดการขยะมูลฝอยรวมของจังหวัด ที่ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยเทศบาลนครภูเก็ต หลังฟังบรรยายสรุปจากนายกเทศมนตรี และดูงาน กล่าวชมการกำจัดขยะภูเก็ตทำได้ดี ที่ท้องถิ่นอื่นควรนำไปเป็นต้นแบบ

     เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 นายจิรชัย มูลทองโร่ย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ ได้ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานการบริหารจัดการขยะมูลฝอยจังหวัดภูเก็ต ที่ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอย จังหวัดภูเก็ต โดยมี นายอภิสิทธิ์ วรรณตุง ท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ต นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต นางบุษยา ใจเปี่ยม ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่เทศบาลนครภูเก็ตให้การต้อนรับ โอกาสนี้ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ฟังการบรรยายสรุปการบริหารจัดการศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยรวมจังหวัดภูเก็ตจากนางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต

    ต่อจากนั้นได้ศึกษากระบวนการในการจัดการขยะมูลฝอยของจังหวัดภูเก็ตที่มีการบริหารโดยคณะกรรมการระดับจังหวัด ซึ่งจะใช้ระบบการจัดการแบบรวมศูนย์โดยนำขยะจากทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมากำจัดรวมกัน สำหรับศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยเทศบาลนครภูเก็ต มีเนื้อที่ 291 ไร่ เป็นพื้นที่จำกัดขยะมูลฝอยแบบฝังกลบ 134 ไร่ พื้นที่กำจัดขยะมูลฝอยแบบเตาเผาชุมชน และเตาเผาติดเชื้อ 46 ไร่ พื้นที่บำบัดน้ำเสีย 33 ไร่พื้นที่จำนวน 78 ไร่ รองรับขยะจากประชากร จังหวัดภูเก็ต 380,000 คน นักท่องเที่ยว13,000,000 ล้านคน และแรงงานต่างด้าว 88,000 คน มีปริมาณขยะมูลฝอยเฉลี่ยในปี 2559 จำนวน 808 ตันต่อวัน โดยจะเสียค่ากำจัดขยะมูลฝอย 520 บาทต่อตัน ซึ่งในแต่ละปีจะมีอัตราเพิ่มของขยะมูลฝอยถึงร้อยละ 7 ต่อปี ใช้หลักการบริหารที่ดี และใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม ด้วยหลัก 3RS โดยวิธีการเผาขยะและเปลี่ยนแปลงเป็นกระแสไฟฟ้า ซึ่งสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ประมาณ 11 – 11.5 เมกกะวัตต่อวัน

    นายจิรชัย มูลทองโร่ย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตถือเป็นต้นแบบที่ดีที่ท้องถิ่นสามารถดำเนินการกำจัดขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยท้องถิ่นอื่น ๆ ควรนำเป็นแบบอย่างเรื่องการกำจัดขยะ โดยเฉพาะการกำจัดขยะอันตรายที่มีมาตรการดูแลอย่างเข้มงวด เพื่อให้ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สะอาดและปลอดภัย