ชาวประมงกว่า200ชุมนุมศาลากลาง ค้านสัตยาบันรับอนุสัญญาฯที่188

       ชาวประมงภูเก็ต แลละอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องกว่า 200 คน รวมตัวกันหน้าศาลากลางจังหวัด ยื่นหนังสือคัดค้านการลงนามสัตยาบันเพื่อรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 188 ผ่านผู้ว่าฯถึงรัฐบาล เป็นหนึ่งใน 22 จังหวัดที่ร่วมคัดค้าน ว่าไม่คุ้มกับค่าลงทุน ชาวประมงจะต้องเลิกการ อุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องจะล่มสลาย คนงานจะตกงาน และจะถูกต่างชาติเข้าฮุบกิจการทั้งหมด

       เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2561 ที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ตัวแทนผู้ประกอบการประมง ตัวแทนภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องต่อเนื่องกับภาคการประมงจังหวัดภูเก็ตรวมกว่า 200 คนนำโดย นายอิสระพงษ์ ศรีสุภาวดี ได้มารวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือคัดค้านกรณีรัฐบาลจะไปให้สัตยาบันเพื่อรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 188 ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ส่งต่อให้กับรัฐบาล ซึ่งดำเนินการพร้อมกันทั่วประเทศ จังหวัดที่มีการทำประมงรวม 22 จังหวัด ซึ่งในกลุ่มตัวแทนได้มีการเขียนป้ายแสดงความไม่เห็นด้วยกับการให้สัตยาบัน ฉบับ 188 โดยมีนายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นผู้รับหนังสือฉบับดังกล่าว

       สำหรับการคัดค้านของชาวประมงจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากสมาคมชาวประมงจังหวัดภูเก็ตทราบมาว่า รัฐบาลได้กำหนดกรอบเวลาการให้สัตยาบันอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศฉบับที่ 188 ว่าด้วยการทำงานในภาคการประมงพ.ศ. 2550 และยกร่างกฎหมายรับรองการให้สัตยาบันอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศฉบับที่ 188 เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2561 นี้นั้น จากการประชุมใหญ่วิสามัญ ของสมาคมชาวประมงภูเก็ตได้ทราบถึงปัญหาที่จะก่อให้เกิดความเสียหาย และส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชาวประมงไทยหลายประการ หากรัฐบาลไทยเร่งรีบให้สัตยาบันอนุสัญญานี้จะทำให้เกิดปัญหาทับถมเพิ่มขึ้น และทำลายอุตสาหกรรมประมงทะเลของไทยทั้งระบบ ตลอดจนการจ้างแรงงานภาคการประมงของประเทศไทยด้วยเช่นกัน

       ดังนั้นสมาคมประมงภูเก็ตจึงขอคัดค้านที่รัฐบาลจะไปลงนามให้สัตยาบันอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศฉบับที่ 188 เพราะหากไม่สามารถแก้ไขได้หรือมีการลงสัตยาบัน จะทำให้วิถีชีวิตชาวประมงไทยเปลี่ยนไป ถูกครอบงำโดยชาวต่างชาติ ชาวประมงต้องเสียเงินจำนวนมากเพื่อทำการเปลี่ยนแปลงเรือประมง และเชื่อว่าจะต้องมีชาวประมงจำนวนมากที่จะต้องเลิกกิจการการทำประมงไป เพราะไม่มีเงินมากพอและไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับรายรับที่ได้มาในปัจจุบัน ซึ่งนั่นหมายถึงจะมีแรงงานจำนวนมากตกงาน ภาคธุรกิจต่อเนื่องกับกิจการประมงในประเทศก็ต้องล้มหายตายจากกันไป รอให้ชาวต่างชาติเข้ามายึดกิจการประมงทั้งหมดของไทย

       ในการนี้สมาคมชาวประมงภูเก็ต จึงขอเรียนยืนยันมายังรัฐบาลเพื่อขัดค้านที่รัฐบาลจะไปลงนามให้สัตยาบันอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศฉบับที่ 188 ว่าด้วยการทำงานในภาคประมงพุทธศักราช 2550 ตามเหตุผลความจำเป็นดังกล่าวข้างต้น