ซิว“เตียง-ร่ม”แหกคอก ออกนอกหาดที่กำหนด

       เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการป้องกัน และปราบปรามรุกพื้นที่หาดฯ ของผู้ว่าฯ ออกตรวจหลังมีการร้องเรียน “ร่ม-เตียง” แหกคอออกนอกบริเวณที่กำหนด จับได้ 6 ราย ดำเนินคดีหมด พร้อมออกตรวจอ่าวปะตก ทั้งการจอดเรือ และซีวอล์คเกอร์ ไม่พบ

        เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามรุกพื้นที่ชายหาดและรุกพื้นที่สาธารณะประโยชน์จังหวัดภูเก็ต ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, พลเรือโทสมนึก เปรมปราโมทย์ ผบ.ทร.ภ.3, นายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, พลเรือตรี บวร มัทงานกูล รอง ผอ.รมน.จว.ภก., พันเอกศานติ ศกุนตนาค ผบ.ควบคุม พล ร.5, นายศิวัชฐ์ ระวังกุล จ่าจังหวัดภูเก็ต, นายประยุทธ ทองพุ่ม ป้องกันจังหวัดภูเก็ต, นำโดย นายวัชรินทร์ ถิ่นถลาง ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 9, นาวาเอกบวร พรมแก้วงาม หัวหน้ากลุ่มงานนโยบายแผนและการข่าว กอ.รมน.จว.ภก., นายราเชนทร์ สงแดง ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดภูเก็ต พร้อมกำลังสมาชิก อส.สังกัดร้อยบก.บร.อส.จว.ภก., ชป.มว.รส.ทรภ.3 และ บก.ควบคุม พล ร.5 ได้ร่วมกันออกตรวจ กำกับ ติดตามผลการจัดระเบียบชายหาดอ่าวปะตก เกาะราชา ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต ตามประกาศจังหวัดภูเก็ตที่ 1/2557 เรื่อง ห้ามยึดถือครอบครองพื้นที่สาธารณประโยชน์บริเวณหน้าหาด หลังได้รับการร้องเรียนว่า มีผู้นำร่มชายหาด และวางขายสินค้าบริเวณชายหาดดังกล่าวซึ่งเป็นหาดสาธารณะ

        จากการตรวจพบผู้กระทำผิด จำนวน 6 ราย  โดยกล่าวหาว่า ให้บริการ เช่าร่มปักชายหาดและเสื่อโดยคิดค่าเช่าและจำหน่ายสินค้าในที่ชายหาด ซึ่งเป็นที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดินที่ประชาชนใช้ร่วมกัน หรือที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ โดยมิได้มีสิทธิครอบครองหรือมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 9 ประกอบมาตรา 108 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พ. ศ. 2497 พร้อมของกลาง ประกอบด้วย 1.ร่มปักชายหาด และของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ อาทิ เสื่อ, ห่วงยางลม, หน้ากากดำน้ำ, แผ่นเซิร์ฟบอร์ด, ซองกันน้ำโทรศัพท์, ชุดว่ายน้ำ เป็นต้น 3  เบื้องต้นนักจัดการงานเทศกิจปฏิบัติการ เทศบาลตำบลราไวย์ได้ทำการตรวจยึดของกลางไว้เป็นหลักฐาน และดำเนินการเปรียบเทียบปรับผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 6 ราย ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความสงบเรียบร้อย พ.ศ.2535 แล้ว ในส่วนการดำเนินคดีได้นำตัวผู้ถูกกล่าวหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง แล้ว จำนวน 4 ราย ส่วนอีก 2 ราย ได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ เพื่อให้พนักงานสอบสวน ได้ติดตามและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดตามกฎหมายต่อไป

        ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ฯ ทั้งหมดยังได้ตรวจสอบเรือท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้ประโยชน์ในพื้นที่บริเวณเกาะราชา จำนวน 50 ลำ  จากการตรวจสอบไม่พบเรือท่องเที่ยวที่ทิ้งสมอเรือในเขตหวงห้าม โดยมีการจอดเรือโดยการผูกทุ่นผูกเรือทุกลำ และไม่พบว่ามีกิจกรรมซีวอร์คเกอร์ในบริเวณดังกล่าวด้วย

        สำหรับชายหาดของเกาะราชานั้นเป็น 1 ใน 33 หาดอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามนโยบายจัดระเบียบชายหาดจังหวัดภูเก็ตมาตั้งแต่ปี 2558 โดยมีการแบ่งพื้นที่การจัดระเบียบออกเป็น 3 ส่วน คือ ชายหาดเพื่อการท่องเที่ยว มี จำนวน 9 ชายหาด โดยชายหาดเหล่านี้จะมีการจัดพื้นที่ 10%  เพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ โดยอนุญาตให้วางเตียงและร่ม รวมถึงประกอบอาชีพนวดและหาบเร่ได้  และมี 1 หาดที่จัดให้เป็นหาดเทิดพระเกียรติ คือ หาดสุรินทร์ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง โดยห้ามไม่ให้มีการวางร่มเตียง และการรุกล้ำลงพื้นที่ชายหาดอย่างเด็ดขาด นอกจากนั้นยังมีจำนวน 33 ชายหาด ที่ถูกกำหนดให้เป็นชายหาดเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยไม่อนุญาตให้มีการประกอบการใดๆ รวมทั้งไม่ให้มีการวางร่มเตียงด้วย