ดูแล “ดวงตา” ในยุคดิจิทัล

     ดูแล “ดวงตา” ในยุคดิจิทัล thaihealth

          อ.พญ.ญาณิน สุวรรณ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล “ดวงตา” เป็นอวัยวะที่สำคัญอวัยวะหนึ่งของร่างกายเรา แต่ละคนมีกันคนละคู่เท่านั้น ในแต่ละวันเราต้องใช้ดวงตาในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งเข้านอน ทำให้ดวงตาของเราต้องรับบทหนักตลอดทั้งวัน

           ยิ่งโลกปัจจุบันที่โซเชียลเน็ตเวิร์กได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคนเรา อย่างแทบจะขาดไม่ได้ เราสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ จำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต ซึ่งจากข้อมูลปี 2559 พบว่าจากประชากรทั้งหมด 68 ล้านคน มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 38 ล้านคน คิดเป็น 56% ของประชากร และมีผู้ใช้ Social Media ทั้งสิ้น 38 ล้านคน ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เราใช้สายตามากกว่าปกติ จนอาจทำให้เป็น “โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม”

          “โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม” เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต โทรศัพท์มือถือ รวมถึงการอ่านหนังสือนาน ๆ โดยไม่พักสายตา จนทำให้กล้ามเนื้อตาล้า หรือการนั่งในท่าหนึ่งนาน ๆ ไม่ขยับเขยื้อนร่างกาย ซึ่งโรคนี้พบมากในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน เนื่องจากคนกลุ่มนี้ใช้เวลาอยู่กับคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์เกือบตลอดเวลา ทั้งทำงาน เล่นเกม และ แชท

          อาการ

          ผู้ป่วยที่เป็นโรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม จะมีอาการตาแห้ง แสบตา เคืองตา ปวดตา ตาพร่า เกิดภาพเบลอหรือภาพซ้อน ปวดศีรษะ และอาจจะมีอาการแพ้แสงร่วมด้วย

          การดูแลรักษาดวงตา

          หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีอาการดังกล่าวข้างต้น ควรปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้

 ปรับสภาพแวดล้อม เช่น ปรับทิศทางการเป่าของแอร์หรือพัดลม โดยไม่ให้เป่าเข้าตา

         พักสายตา การใช้ดวงตาเป็นเวลานาน ๆ โดยไม่ได้พักเลย ส่งผลให้เกิดอาการล้าและปวดตาตามมาได้ จึงควรพักสายตาบ้าง เช่น ใช้สายตาไป 30 นาที ก็ควรพักสัก 30 วินาทีด้วยการมองไปที่ไกล ๆ จากจอคอมพิวเตอร์ประมาณ 20 ฟุต หรือหากในบริเวณที่ทำงานมีสวนหรือต้นไม้ ก็มองไปบริเวณนั้น จะช่วยเพิ่มความผ่อนคลายให้ดวงตา

          หากทำตามคำแนะนำ 2 ข้อนี้แล้วอาการยังไม่ดีขึ้น แพทย์จะแนะนำให้ใช้ “น้ำตาเทียม” ซึ่งมี 2 ชนิด คือ น้ำตาเทียมแบบรายเดือน เมื่อเปิดแล้วใช้ได้ 1 เดือน และน้ำตาเทียมแบบรายวัน ใช้ได้ 24 ชั่วโมงเท่านั้น หากคุณเป็นคนที่ตาแห้งมาก ควรใช้น้ำตาเทียมแบบรายวัน เพราะสามารถหยอดได้บ่อย ๆ และจะช่วยให้รู้สึกสบาย เพราะมีน้ำหล่อลื่นในดวงตา ส่วนใครที่ตาแห้งไม่มากก็ควรใช้แบบรายเดือน

          การป้องกัน

          เนื่องจากดวงตามีความสำคัญกับเรามาก เราจึงควรทะนุถนอม และดูแลดวงตาคู่นี้ให้ดี โดยควรพักสายตาทุก ๆ 30 นาทีหรือ 1 ชั่วโมง ด้วยการมองออกไปที่ไกล ๆ หรือบริเวณที่มีสีเขียว ๆ ออกไปเดิน ยืดเส้น ยืดสาย เพื่อให้สายตาได้มองสิ่งอื่น ๆ บ้าง นอกจากการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และโทรศัพท์มือถือ หรือจะพักสายตาด้วยการหลับตาประมาณ 3-5 นาทีก็ได้

          นอกจากนี้ควรบำรุงสายตาด้วยการกินผักใบเขียว ไข่ มันเทศ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ปลาแซลมอน อะโวคาโด และถั่วอัลมอนด์ ก็จะช่วยเสริมให้เรามีสุขภาพตาที่แข็งแรง