ตร.ภูเก็ตจับโจรลักจยย. 2 ราย ส่งขาย “เมียนมาร์” กว่า 10 คัน

          ตำรวจภูธรถลางรวบตัวหนุ่มอุดรฯ ลักรถเครื่องจากถลาง แกะรอยจากกล้องวงจรปิด รวบได้ละม่อมพร้อมรถของกลางอีก 2 คัน ที่บ้านพักหลังสนามสุระกุล พบประวัติเพิ่งพ้นโทษ ออกมาก่อเหตุอีกรถจักรยานยนต์ได้ 3 คัน ส่วนชุดสืบสวนเมืองภูเก็ต ซิวมือลักรถเครื่องส่งขายประเทศใกล้เคียงได้ที่สะพานหิน สารภาพร่วมกับเมียสาวตระเวนขโมยมาแล้วกว่า 13 คัน กำลังขยายผลตามล่าเมีย และเครือข่ายต่อไป

          เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 15 พฤศจิกายน 2560 ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปราโมทย์ งามประดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.ณฐาภพ พงศาปาน รองผกก.สส.สภ.ถลาง พ.ต.ท.พงษ์พันธ์ ศิริภัทรนุกุล สว.สส.สภ.ถลาง พ.ต.ท.นฤบดินทร์ ปังหลีเส็น สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวการจับกุม นายพรชัย คำเรือง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96 ม.3 ต.น้ำพ่น อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นไนซ์ สีเขียว ทะเบียน ขมน-923 ภูเก็ต จำนวน 1 คัน รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโนสีเหลือง ทะเบียน ขวก-207 ราชบุรี จำนวน 1 คัน และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นฟีโน่ สีเขียว-ขาว ทะเบียน ขพก-890 ภูเก็ต จำนวน 1 คัน และอุกปกรณ์อื่นๆ โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณบ้านเลขที่ 73/15 ถ.เอกวานิช ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อเวลา 15.30 น. ของวันที่ 14 พ.ย.60 ที่ผ่านมา

            พ.ต.ท.พงษ์พันธ์ ศิริภัทรนุกุล สว.สส.สภ.ถลาง กล่าวถึงการจับกุมครั้งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.ถลางได้รับแจ้งว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2560 เวลาประมาณ 12.00 น.ได้มีผู้เสียหายจอดรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นไนท์ สีเขียว ทะเบียน กมน-923 ภูเก็ต ไว้ที่บริเวณหน้าบ้าน หลังตลาดสดท่าเรือ ม.5 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง ต่อมาเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันเดียวกัน พบว่ารถจักรยานยนต์ คันดังกล่าวได้สูญหายไป จึงได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จึงได้ออกทำการสืบสวนหาข่าว ตรวจสอบภาพข้อมูลกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ และบริเวณใกล้เคียง พบคนร้ายเป็นชายสวมเสื้อยืด สีฟ้า สวมกางเกงขาสั้น สีเข้ม สวมรองเท้าแตะ สีดำ และสวมหมวกกันน็อค สีขาว ได้ก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไป คนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายหลบหนีไปทาง ถนนเทพกระษัตรี มุ่งหน้าเข้า อ.เมืองภูเก็ต จึงได้ทำการสืบสวนหาข่าวมาอย่างต่อเนื่อง

          จนต่อมาทราบข้อมูลจากพลเมืองดีว่า พบเห็นรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว มีบุคคลต้องสงสัยขับขี่อยู่บริเวณซอยข้างสนามกีฬาสุระกุล ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ตต่อมาวันที่ 14 พ.ย.60 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ถลางร่วมกับชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต จึงได้ร่วมกันวางแผนออกติดตาม ตรวจสอบพื้นที่บริเวณดังกล่าว จนมาถึงบ้านเลขที่ 73/15 ถนนเอกวานิช ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต เห็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นไนท์ สีเขียว ทะเบียน กมน-923 ภูเก็ต จอดอยู่บริเวณห้องโถงภายในบ้านดังกล่าว ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์คันเดียวกันกับที่ผู้เสียหายได้แจ้งไว้ จึงได้เรียกบุคคลในบ้านออกมาและพบว่านายพรชัย คำเรือง พักอาศัยอยู่ภายในบ้านพักหลังดังกล่าว และจากการสอบถามนายพรชัยฯ ให้การรับสารภาพว่า ตนได้มาขอพักอาศัยอยู่กับเพื่อน ซึ่ง นายพรชัยฯ เคยมีประวัติถูกจับกุมในข้อหา “ลักทรัพย์(รถจักรยานยนต์)ในเวลากลางคืน” และเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อวันที่ 4 พ.ย.60

         หลังจากพ้นโทษออกจากเรือนจำกลางจังหวัดภูเก็ต ก็ได้เดินทางไปหาเพื่อนที่ซอยกิ่งแก้ว ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ในระหว่างเดินไปนั้น พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่าฟีโน่ สีเหลือง ขวก-207 ราชบุรี ซึ่งจอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน จึงได้ใช้กุญแจรถจักรยานยนต์ที่พบระหว่างทาง ลองไขเปิดดู ปรากฏว่าสามารถเปิดได้ และติดเครื่องได้ จึงได้ขับขี่ขโมยเอารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไปเก็บไว้ที่บ้านเพื่อน และในวันที่ 5 พ.ย.60 นายพรชัยฯ ได้ไปที่หมู่บ้านสะพานหิน ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต และได้พบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่าฟีโน่ สีฟ้า ทะเบียน ขพก-890 ภูเก็ต ซึ่งจอดอยู่บริเวณหน้าห้องแถว จึงได้ใช้กุญแจรถจักรยานยนต์คันอื่นลองไขเปิดดู ปรากฏว่าสามารถเปิดได้ และติดเครื่องได้อีก จึงได้ขับขี่ขโมยเอารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไปเก็บไว้ที่บ้านเพื่อน

          พ.ต.ท.พงษ์พันธ์ กล่าวต่ออีกว่า ต่อมาวันที่ 12 พ.ย.2560 เวลาประมาณ 10.00 น. นายพรชัยฯ จึงเดินทางไปหาแม่ที่บ้าน บริเวณซอยนาสาด ใกล้กับอนุสาวรีย์ฯ ในระหว่างทางพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นไนท์ ทะเบียน ขมน-923 ภูเก็ต จึงได้ลองไปไขติดเครื่องดู ปรากฏว่าสามารถติดเครื่องได้ จึงได้ขับขี่มุ่งหน้าเข้า อ.เมืองภูเก็ต และนำมาเก็บซุกซ่อนไว้ที่บ้านของเพื่อน จนต่อมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด และแจ้งข้อกล่าวหา ในข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหะสถานหรือรับของโจร” นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ถลาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

          ด้านพล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ย.60เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.เมืองภูเก็ต นำโดย  สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต ร.ต.อ.พีรสิทธิ์หนูพยันต์ ร.ต.อ.อนิรุทธิ์ ทองผึ้ง ร.ต.อ.สารีย์ องอาจ ร.ต.อ.ตะวัน นวลแก้ว รองสว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต ร่วมกันจับกุม นายบวรศักดิ์ หรืออู๊ด แซ่ตัน อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56/230 ม.2 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต และ นายสิริวัฒน์หรือทร พลายชนะ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 ม.5 ต.พังกาญจน์ อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีลาโน่ สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 กฎ 1122 ภูเก็ต จำนวน 1 คัน โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณ หน้าห้องน้ำ สะพานหินภูเก็ต ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต

             พล.ต.ต.ธีระพล กล่าวถึงการจับกุมครั้งนี้ ว่า สืบเนื่องจากในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาในพื้นที่สภ.เมืองภูเก็ตได้มีรถจักรยานยนต์หายจำนวนหลายคัน โดยคนร้ายมักจะเลือกรถจักรยานยนต์ที่เสียบกุญแจไว้ หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ฯได้ลงพื้นที่ตรวจสอบหาข้อมูลและเก็บรายละเอียดภาพกล้องวงจรปิดตามจุดเกิดเหตุต่างๆ จนสืบทราบว่า คนร้ายมีด้วยกัน 2 คนซึ่งเป็นสามีภรรยากัน คือ นายนายบวรศักดิ์ หรืออู๊ด แซ่ตัน อายุ 42 ปี และ นางสาวนันท์นภัส หรือมล อนุกูลสวัสดิ์ และได้มีการติดตามจับกุมมาต่อเนื่องแต่ไม่สามารถจับกุมได้ เนื่องจากคนร้ายมีการระวังตัวเป็นอย่างดี จนกระทั่งเมื่อวันที่ 11 พ.ย.60 ทางเจ้าหน้าที่ฯชุดสืบสวนได้ออกตรวจพื้นที่ และพบเห็น นายบวรศักดิ์ หรืออู๊ด แซ่ตัน อายุ 42 ปี กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีลาโน่ สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 กฎ 1122 ภูเก็ต อยู่หน้าห้องน้ำ สะพานหินภูเก็ต ทางเจ้าหน้าที่ฯจึงได้ลงขอตรวจสอบเอกสารของรถซึ่ง นายบวรศักดิ์ ไม่สามารถนำมาให้ดูได้จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ห้องสืบสวนสภ.เมืองภูเก็ต

             จากการสอบถาม นายบวรศักดิ์ บอกว่า ตนและภรรยาได้ตั้งเป็นแก๊งค์เพื่อวางแผนตระเวนลักทรัพย์ในพื้นที่อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งแบ่งหน้าที่กันคือ ตนและภรรยาจะขับขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกันแล้วตระเวนหารถเป้าหมายที่เสียบกุญแจไว้ เมื่อพบรถเป้าหมายก็จะขโมยหลบหนีไปให้ นายสิริวัฒน์หรือทร พลายชนะ อายุ 54 ปี นำไปขายให้ นายหน้าที่จังหวัดพังงา หลังจากนั้นก็จะส่งรถที่ขโมยมาไปขายที่ประเทศเมียนมาร์ รถแต่ละคันจะได้ราคาอยู่ที่ 5,000 – 10,000 บาท ตามสภาพเก่าหรือใหม่ เมื่อได้เงินมาก็จะนำมาแบ่งกัน ซึ่งตนได้ก่อเหตุมาแล้ว 13 ครั้งได้รถจักรยานยนต์ 13 คัน

            อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ฯได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ แต่ให้การปฏิเสธรับของโจร พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนนางสาวนันท์นภัส หรือมล อนุกูลสวัสดิ์ ทางเจ้าหน้าที่ฯจะออกหมายจับ และขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขยายผลจับกุมเครือข่ายอีกต่อไป

            จากการสอบสวนขยายผลถึงคดีอื่นๆ พบว่า นอกจากรถจักรยานยนต์ 1คันดังกล่าว นายบวรศักดิ์ฯ กับพวกยังได้ก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่อีกจำนวน 30คัน