ทน.ภูเก็ต เปิด “ปั่นจักรยานตามรอยอดีตล้ำค่าจากยุคเก่า…สู่ยุคใหม่ ปี ๗” เส้นทาง สวนสาธารณะสะพานหิน จังหวัดภูเก็ต สู่ หาดนาใต้ จังหวัดพังงา

         นางสาวสมใจ  สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต กล่าวรายงานต่อ นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ประธานพิธีเปิดฯ โครงการตามรอยอดีตล้ำค่าจากยุคเก่าสู่ยุคใหม่ ประจำปี ๒๕๖๑ “สวนสาธารณะสะพานหิน จังหวัดภูเก็ต สู่ หาดนาใต้ จังหวัดพังงา” โดยมี ผศ.ดร.เกษม  นครเขตต์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพ (สสส.) นายสมบัติ จินดาพล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกกลอย นางศิรวี วาเล๊าะ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต นายกวี  ตันสุคตานนท์  รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต นายธวัชชัย  ทองมั่ง ปลัดเทศบาลนครภูเก็ต นางสาวชุติมา  สนิทเปรม รองปลัดเทศบาลนครภูเก็ต สมาชิกสภาเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ เครือข่ายการจัดโครงการตามรอยอดีตล้ำค่าจากยุคเก่าสู่ยุคใหม่ สื่อมวลชน และนักกีฬาปั่นจักรยาน เข้าร่วม ณ สวนสาธารณะสะพานหิน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

         นางสาวสมใจ  สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต กล่าวว่า เทศบาลนครภูเก็ตได้ดำเนินโครงการพัฒนาอนุรักษ์ย่านการค้าเมืองเก่าภูเก็ต โดยยึดหลักการทำงานรูปแบบเครือข่ายบนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูย่านการค้าเมืองเก่าภูเก็ตให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม รวมไปถึงการสร้างจิตสำนึกที่ดีให้แก่พี่น้องชาวภูเก็ต เกิดความรักและภาคภูมิใจในถิ่นเกิด ไม่หลงลืมรากเหง้าของตนเอง เพื่อใช้เป็นต้นทุนในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ก่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น พร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาล ด้านการเพิ่มความหลากหลายของการท่องเที่ยวและร่วมส่งเสริมการใช้จักรยานในชีวิตประจำวันตลอดจนการรณรงค์การประหยัดพลังงานเพื่อลดภาวะโลกร้อน

         สำหรับกิจกรรมการปั่นจักรยานในครั้งนี้เป็นปีที่ ๗ ซึ่งมีระยะทางจากสวนสาธารณะสะพานหิน จังหวัดภูเก็ต สู่ หาดนาใต้ จังหวัดพังงา รวมระยะไป – กลับ ราว ๑๒๐ กิโลเมตร ซึ่งมีผู้เข้าร่วมปั่นจักรยานประกอบด้วยประชาชนในพื้นที่และผู้สนใจทั่วไป ประมาณ ๔๐๐ คน มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนชาวภูเก็ตเกิดความรัก ความภาคภูมิใจในถิ่นเกิด ถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตเมือง และเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนเกิดความตระหนักต่อการใช้จักรยานในชีวิตประจำวัน ซึ่งเครือข่ายดำเนินงานประกอบด้วย เทศบาลนครภูเก็ต,องค์การบริหารส่วนตำบลโคกกลอย, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการส่งเสริมสุขภาพ (สสส.), การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, สำนักงานภูเก็ต, ชมรมจักรยานภูเก็ต, สถานีตำรวจจังหวัดภูเก็ต , ตำรวจท่องเที่ยว, ชุมชนย่านเมืองเก่าภูเก็ตและมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ซึ่งถือเป็นพลังสำคัญในการสร้างความสมานสามัคคีระหว่างองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนเพื่อประโยชน์ของสังคมส่วนรวม

         นอกจากนี้ ยังเป็นการเชื่อมโยงไปสู่การจัดงานตรุษจีน-ย้อนอดีตเมืองภูเก็ต ครั้งที่ ๑๙ ประจำปี ๒๕๖๑ โดยเทศบาลนครภูเก็ต ได้ดำเนินงานร่วมกับเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อให้ชาวนครภูเก็ต ได้ตระหนักถึงความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษผู้สร้างและสืบทอดมรดกล้ำค่าให้แก่ลูกหลานในปัจจุบัน ซึ่งกำหนดให้มีขึ้น ในระหว่างวันที่ ๒๑ – ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ บนพื้นที่ ถนนถลาง ถนนกระบี่ ถนนพังงา ถนนเทพกระษัตรีบางส่วน ถนนภูเก็ตบางส่วน และซอยรมณีย์ ตั้งแต่เวลา๑๗.๐๐ น. – ๒๔.๐๐ น. จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวภูเก็ต และนักท่องเที่ยวร่วมชมงานตรุษจีนย้อนอดีตเมืองภูเก็ตในครั้งนี้

         นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ภูเก็ต “ ดินแดนแห่งไข่มุกอันดามัน ” ในอดีตมีความเจริญรุ่งเรืองและมีความมั่งคั่ง จากการทำเหมืองแร่ดีบุกที่มีคุณภาพดีเป็นที่ต้องการของต่างชาติ อาทิ อังกฤษ ฮอลันดา โปรตุเกส ต่อมาการค้าขายแร่ดีบุกซบเซาและในปี ๒๕๒๖ ยุทธศาสตร์ภูเก็ตจึงได้เปลี่ยนจากการทำเหมืองแร่ดีบุกมาเป็นการท่องเที่ยวทางทะเล ปัจจุบันภูเก็ตได้รับการกล่าวขานว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลที่สวยงามติดอันดับโลก ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา ยังจังหวัดภูเก็ตมากกว่า ๑๒ ล้านคนในปี ๒๕๖๐ “ มนต์เสน่ห์ของภูเก็ต ” นอกจากจะอยู่ที่ความสวยงามของหาดทรายยังมีความโดดเด่นของสถาปัตยธรรมของอาคารเมืองเก่าที่เรียกว่า  “ชิโนโปรตุกิส”  ทำให้ภูเก็ตได้รับโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจการลงทุน  และต่อยอดจากธุรกิจการท่องเที่ยวได้อีกหลากหลายประเภท  นำไปสู่การส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ทั้งในส่วนที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลประวัติศาสตร์วัฒนธรรมและวิถีชีวิต นับเป็นการสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการท่องเที่ยวในระดับเอเชียแปซิฟิกซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมการค้าการลงทุนและสร้างมูลค่าเพิ่มจากการท่องเที่ยวถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น  ระดับจังหวัดและระดับชาติ  รวมถึงด้านการส่งเสริมการใช้จักรยานในชีวิตประจำวัน การประหยัดพลังงาน เพื่อร่วมลดภาวะโลกร้อน

         ขอชื่นชมคณะทำงานโครงการตามร้อยอดีตล้ำค่าจากยุคเก่าสู่ยุคใหม่และเครือข่ายทุกท่าน ที่ร่วมจัดกิจกรรมอันเป็นประโยชน์แก่ประชาชนทั้งในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียงเพื่อสร้างเครือข่ายด้านการท่องเที่ยว นำไปสู่การกระจายรายได้ไปยังชุมชน และท้องถิ่น ตลอดจนรณรงค์ให้มีการใช้จักรยานในชีวิตประจำวันให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง นำไปสู่การลดใช้พลังงานตามนโยบายรัฐบาล เนื่องจากปัจจุบันทั่วโลกกำลังประสบปัญหาดังกล่าว การปั่นจักรยานจึงถือเป็นกิจกรรมหนึ่งที่จะนำไปสู่ความร่วมมือในการร่วมแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างเป็นรูปธรรมบนพื้นฐานของความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคม