ท่องเที่ยวภูเก็ตคึกคักหลังเปิดรับ นทท.จากประเทศต่างๆ ได้เพิ่มขึ้น จากเดิมวันละ 500-600 คน เป็น กว่า 1,000 คน

ท่องเที่ยวภูเก็ตคึกคักหลังเปิดรับ นทท.จากประเทศต่างๆ ได้เพิ่มขึ้น จากเดิมวันละ 500-600 คน เป็น กว่า 1,000 คน

                สถานการณ์ท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ภายหลังจากมีการเปิดประเทศรับชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นอีกกว่า 60 ประเทศ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่งผลให้การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตมีความคึกคักขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนไม่ว่าจะเป็นตามแหล่งท่องเที่ยวหรือร้านค้าร้านอาหารต่างๆ และยังมีแนวโน้มที่ดี โดยเฉพาะตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากเดิมวันละประมาณ 500-600 คน เพิ่มเป็นกว่า 1,000 คน

             นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตหลังเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากกว่า 60 ประเทศ ว่าจังหวัดภูเก็ตเปิดรับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัวมาแล้ว 3 เดือน และเมื่อรวมกับการเปิดประเทศเมื่อ วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา รวมเป็น 3 เดือน กับอีก 10 วัน เพราะภูเก็ตเริ่มมาตั้งแต่เปิดแซนด์บ็อกซ์​ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา จึงถือเป็นการเดินต่อจากที่ได้ดำเนินการมาแล้ว ต่างจากบางจังหวัดที่พึ่งเริ่มเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

            อย่างไรก็ตาม​ นายณรงค์ กล่าวด้วยว่า จากการที่ได้รับรายงานหลังจากวันที่ 1 พฤศจิกายน​ พบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มมากขึ้น​ จากเดิมอยู่ที่วันละประมาณ 500-600 คน เพิ่มเป็นวันละกว่า 1,000 คน เนื่องจากจำนวนเงื่อนไขต่างๆ ลดลง ประกอบกับจำนวนประเทศที่สามารถเดินทางเข้ามามีมากขึ้นกว่า 60 ประเทศ โดยเงื่อนไขใหม่ที่เรียกว่า Test&go เมื่อมาถึงวันแรกเมื่อตรวจหาเชื้อแล้วผลเป็นลบสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆได้ทั่วประเทศ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการตรวจหาเชื้อจากประมาณ 8,000 บาทเศษ เหลือเพียง 2,000 บาทเศษ ขณะที่นักท่องเที่ยวที่เข้ามารูปแบบแซนด์บ็อกซ์จะลดลงเรื่อยๆ และหมดไปในที่สุด ซึ่งจากการที่เห็นด้วยสายตาพบว่า บริเวณแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นชายหาดหรือร้านอาหารต่างๆ เริ่มมีความคึกคักมากขึ้น

           นอกจากที่เห็นได้ค่อนข้างชัดเจน​ คือ ปริมาณรถบนท้องถนนที่เพิ่มมากขึ้นจนรถติด แต่เรายังคงต้องระมัดระวัง เพราะโรคนี้ยังไม่หมดไป แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อของจังหวัดภูเก็ตจะลดลง แต่ในส่วนของเพื่อนบ้านยังมีตัวเลขที่สูง เพื่อความไม่ประมาทก็ได้มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องของเตียงและการดูแลด้านสาธารณสุข สิ่งสำคัญ คือ ทุกคนต้องดูแลตัวเอง รวมทั้งในส่วนของการผ่อนคลายมาตรการต่างๆที่ผ่านมานั้น ขอให้ช่วยกันรักษาด้วย เช่น การอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มในร้านอาหาร เป็นต้น ทำอย่างไรที่จะให้สามารถผ่อนคลายได้เพิ่มเติม เพราะหากสังคมยังมองเป็นต้นเหตุของการแพร่เชื้อ​ ก็อาจจะต้องกลับมาทบทวนอีกซึ่งไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น