“บิ๊กป้อม” ​ประชุมติดตาม​ผลงาน พร้อมเร่งแก้ปัญหา​ภูเก็ต​ภัยแล้ง

          พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมติดตามการแก้ปัญหาภูเก็ตขาดน้ำเร่งขับเคลื่อนโครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนรองรับอนาคต​ ติดตามผลการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆ​ เพื่อรองรับการขยายตัวของจังหวัดภูเก็ต อาทิ แผนการบริหารจัดการน้ำในจังหวัดภูเก็ต โครงการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง Smart City เป็นต้น

          วันที่​ 2 พฤศจิกายน 2563​ (วันนี้)​ เวลา​ 09.00​ ​น.​ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามผลการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆ​ เพื่อรองรับการขยายตัวของจังหวัดภูเก็ต พร้อม​ นายวราวุธ​ ศิลปอาชา​ รัฐมนตรี​ว่าการกระทรวงทรัพยา​กรธรรมชาติ​และสิ่งแวดล้อม​, ศ.ดร.นฤมล​ ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรี​ช่วยว่าการกระทรวง​แรงงาน​ โดยมี​ ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และ​ นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต​ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต

          หลังเสร็จสิ้นการประชุม คณะรองนายกรัฐมนตรีมีกำหนดเดินทางไปยังสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาคสาขาภูเก็ต อำเภอกะทู้ เพื่อรับฟังแนวทางการพัฒนาและแก้ไขปัญหาประปาจังหวัดภูเก็ต โครงการประปาพังงา-ภูเก็ตและแนวทางการผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

​          พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี​ ได้เปิดเผยว่า​ จังหวัดภูเก็ตเป็นศูนย์กลางปฏิบัติการของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ​ เพื่อการอุปโภคบริโภคเกือบทุกปี​ รัฐบาลเล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว​มาโดยตลอด​ วันนี้ที่ได้เดินทางมาลงตรวจราชการ​ ก็ได้สั่งการให้กรมชลประทานหาทางเพิ่มประสิทธิภาพการสูบน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติเข้ามาเติมอ่างเก็บน้ำให้ได้มากที่สุด ส่วนการประปาส่วนภูมิภาคก็ให้เร่งสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่จังหวัดพังงา​ ในการก่อสร้างระบบประปามายังจังหวัดภูเก็ต​ เพื่อให้การดำเนินการเกิดผลประโยชน์กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

          นอกจากนี้​ ยังได้สั่งการให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กำกับติดตามเร่งรัดการดำเนินงานของทุกหน่วยและรายงานให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ทราบเป็นระยะ พร้อมกำหนดมาตรการประหยัดน้ำแนวทางการนำน้ำเสียกลับมาใช้ซ้ำ รวมถึงวางแผนพัฒนาแหล่งเก็บกักน้ำในจังหวัดพังงาและจังหวัดภูเก็ตเพื่อรองรับการใช้น้ำให้เพียงพอในอนาคตด้วย​ อีกทั้งได้สั่งการให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต​ เร่งรัดดำเนินการจัดทำระบบผลิตน้ำจืดจากน้ำกร่อยและน้ำทะเลโดย สนทช. จะต้องพิจารณาเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณงบกลางปี 2564 จากสำนักงบประมาณต่อไปด้วย

          ส่วนด้าน​ ดร. สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการ สนทช.กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตมีประชากรและประชากรแฝงที่เข้ามาทำงานร่วมกันมากกว่า 1.4 ล้านคน​ และมีนักท่องเที่ยวปีละไม่ต่ำกว่า 14 ล้านคน ทำรายได้ให้ประเทศปีละกว่า 400,000 ล้านบาท ทำให้เกิดการขยายตัวอย่างรวดเร็ว​ ของนักท่องเที่ยวและชุมชนเมืองส่งผลกระทบให้ปริมาณความต้องการใช้น้ำของจังหวัดภูเก็ตสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว​ เช่น​ กันจากเดิมที่มีความต้องการใช้น้ำประมาณปีละ 62 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดการณ์ว่า​ตั้งแต่ปี 2575 เป็นต้นไป​ จะมีความต้องการใช้น้ำเพิ่มขึ้นถึง 112 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องวางแผนแก้ปัญหาความยั่งยืนด้านน้ำให้ครอบคลุมทุกภาคส่วน​ เพื่อชีวิตที่ดีของประชาชนและเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ

          ทั้งนี้​ แนวทางการแก้ไขปัญหาการน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคของจังหวัดภูเก็ตนั้นในการประชุม กนช. ครั้งที่ 2/2562 เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2562 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบโครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาคสาขาพังงา-ภูเก็ต​ ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำใช้ผลิตน้ำประปาเพิ่มขึ้น 49 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี​ ปัจจุบันการประปาส่วนภูมิภาคเสนอขอตั้งงบประมาณประจำปี​ พ.ศ. 2565 และอยู่ระหว่างดำเนินการกระบวนการมีส่วนร่วมกับประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดพังงาและภูเก็ต

          นอกจากนี้​ ในที่ประชุม กนช. ครั้งที่ 2/2563 เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2563 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการโครงการน้ำต้นทุนและแผนปฏิบัติการปี 2563-2565 ของจังหวัดภูเก็ตในระยะสั้น (เร่งด่วน)อีก 3 โครงการ​ ได้แก่ 1.โครงการเพิ่มประสิทธิภาพอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำจากเดิมที่มีความจุ 7.20 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 8.70 ล้านลูกบาศก์เมตร 2.โครงการระบบสูบน้ำบ้านโคกโตนดอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำอีก 10 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี และ 3. โครงการบำบัดน้ำเสียมาผลิตน้ำประปาจะทำให้มีปริมาณน้ำประปาในเขตเทศบาลนครภูเก็ตเพิ่มขึ้นอีกวันละ 1,600 ลูกบาศก์เมตรหรือ 0.584 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปีโดยที่ประชุมมอบหมายให้ สทนช.ร่วมกับจังหวัดภูเก็ต จัดทำแผนหลักแผนปฏิบัติการและจัดลำดับความสำคัญให้ครอบคลุมในทุกมิติ ซึ่งในปีงบประมาณพ. ศ. 2564 นี้สนทช.จะได้ดำเนินการศึกษาแผนหลักแบบบูรณาการ เพื่อการบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งพื้นที่เฉพาะ (Area Based )เกาะภูเก็ต โดยจะดำเนินการวิเคราะห์สภาพพื้นที่ในเชิงลึกเพื่อนำมากำหนดทิศทางการพัฒนาด้านทรัพยากรน้ำของจังหวัดภูเก็ตให้ครอบคลุมตามแนวทางการพัฒนาภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการน้ำ 20 ปีทั้ง 6 ด้านอีกด้วย

          ดร. สมเกียรติ​ ยังได้กล่าวถึง การลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตของ รองนายกรัฐมนตรีและคณะในครั้งนี้​ ยังได้มอบแนวทางการปฏิบัติงานให้การประปาส่วนภูมิภาคสาขาภูเก็ตเร่งขยายการให้บริการน้ำประปาครอบคลุมพื้นที่ที่ยังขาดแคลนน้ำสะอาดในการอุปโภคบริโภคและขยายกำลังการผลิตให้เพียงพอกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นพร้อมให้เตรียมมาตรการในการรับมือภาวะน้ำท่วมหรือภัยแล้งที่อาจจะเกิดขึ้น​ โดยให้เตรียมแหล่งน้ำดิบให้เพียงพอต่อการผลิตน้ำประปาตลอดจนให้ใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีมาสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการให้บริการที่มีประสิทธิภาพรวมทั้งให้แบ่งปันองค์ความรู้และประสบการณ์ด้านกิจการประปาให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้สามารถดูแลกิจการประปาได้อย่างถูกสุขลักษณะจึงจะทำให้ประชาชนทุกพื้นที่ได้ใช้น้ำสะอาดมีคุณภาพที่ดีเท่าเทียมกันอีกด้วย