พบเคสวางยาเบื่อและทำร้ายสุนัข ซอยด๊อกพร้อมตามตัวผู้กระทำผิด

        พบเคสวางยาเบื่อและทำร้ายสุนัข ซอยด๊อกพร้อมตามตัวผู้กระทำผิด

            มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยได้รับรายงานเหตุสุนัขถูกวางยาเบื่อในพื้นที่ตำบลเชิงทะเล จังหวัดภูเก็ตสองกรณีในช่วงเวลาและที่ก่อเหตุบริเวณใกล้กัน โดยคาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นคนกลุ่มเดียวกัน ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการดำเนินคดีตามกฏหมาย ซึ่งการทำร้ายสุนัขและแมวให้บาดเจ็บหรือถึงแก่ชีวิต กักขัง ไม่ดูแลสวัสดิภาพหรือเลี้ยงแล้วทิ้งล้วนผิดกฏหมาย “พระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๗” และต้องระวาง โทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยเหตุการณ์แรก มูลนิธิฯ ได้รับแจ้งเหตุพบซากสุนัขมีเชือกผูกที่ขาไว้กับหลัก ซึ่งเสียชีวิตหลายวันแล้วโดยบริเวณใกล้ ๆ กันพบยาเบื่อหนู เป็นพฤติกรรมจงใจที่จะวางยาพิษให้สุนัขกินและไม่ให้วิ่งหนีเอาชีวิตรอด ซึ่งเจ้าของสุนัขได้ให้ข้อมูลว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สุนัขของเขาถูกวางยา

           เหตุการณ์ที่สอง เจ้าของสัตว์เลี้ยงนำสุนัขไปเดินเล่น และไปพบถุงที่ถูกวางทิ้งไว้ซึ่งมีเนื้อไก่อยู่ด้านใน สุนัขได้กินเข้าไปและมีอาการชักน้ำลายฟูมปาก เมื่อนำส่งคลินิกรักษาสัตว์พบว่าไก่นั้นผสมกับยาฆ่าแมลง ซึ่งเป็นการกระทำโดยเจตนาหรือมุ่งหวังผลให้สุนัขที่มากินถึงแก่ชีวิต ตัวแทนของมูลนิธิฯ ได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเจ้าของสุนัขและลงบันทึกประจำวัน เพื่อเตรียมดำเนินการทางกฏหมายต่อไป ซึ่งก่อนหน้านี้ทางมูลนิธิฯ ได้มีการติดตั้งป้ายขนาดใหญ่ตามจุดต่างๆ รอบเกาะภูเก็ต เพื่อให้ข้อมูลสามภาษาได้แก่ อังกฤษ ไทย และเมียนมาร์ แจ้งเตือนการกระทำที่ทำร้ายสุนัขและแมว การบริโภคและค้าเนื้อเป็นสิ่งผิดกฏหมายและผู้กระทำความผิดต้องได้รับโทษ

          โดยหากพบเห็นการทารุณกรรมสัตว์ โปรดแจ้งที่เบอร์ 062 2458944 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากการวางยาพิษสุนัขดังกล่าวแล้ว เร็วๆนี้ ยังพบกรณีทำร้ายสุนัขเพิ่มเติม เช่น เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือสัตว์ของมูลนิธิฯพบเห็นการวางกับดักสัตว์ 2 จุด ระหว่างปฏิบัติหน้าที่นำอาหารไปให้แก่สุนัขจรรอบเกาะคาดว่า เพื่อดักสุนัขและต้องการปลิดชีวิตที่ไซต์ก่อสร้างบริเวณกมลา ซึ่งได้นำออกจากพื้นที่แล้ว พร้อมแจ้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องว่าการกระทำดังกล่าวผิดกฏหมาย

          หากมีสุนัขเสียชีวิตจากกับดักจะถูกดำเนินคดี และอีกเหตุการณ์คือสุนัขถูกยิงที่บริเวณบ้านไม้ขาว ซึ่งในตอนแรกคาดว่าสุนัขตัวนี้ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณขาจึงเดินกะเผลกแต่เมื่อนำมาตรวจรักษาจึงพบรอยกระสุนปืน ทุกการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งผิดกฏหมายและผู้กระทำความผิดต้องได้รับโทษ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเหตุการณ์และไม่สามารถตรวจสอบหรือดำเนินการด้วยตนเองได้สามารถแจ้งมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยได้ทันที ซึ่งมูลนิธิฯมีความพร้อมในการลงพื้นที่และร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินการทางกฏหมายเ พื่อคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์