“ภูมิใจไทย” เขย่าภูเก็ต!! มีผลงาน คิดจริง ทำได้จริง เตรียมเปิดตัวพรรคฯ และว่าที่ผู้สมัครฯ ส.ส. มั่นใจพร้อมปักธง 3 เขตภูเก็ต ยกจังหวัด!

“ภูมิใจไทย” เขย่าภูเก็ต!! มีผลงาน คิดจริง ทำได้จริง เตรียมเปิดตัวพรรคฯ

และว่าที่ผู้สมัครฯ ส.ส. มั่นใจพร้อมปักธง 3 เขตภูเก็ต ยกจังหวัด!

                ในวันที่ 3 ธ.ค.65 เวลา 08.30-11.30 น. ณ ศูนย์ประชุมขุนเลิศโภคารักษ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต พรรคภูมิใจไทย เตรียมพร้อมที่จะเปิดตัวพรรคฯ และว่าที่ผู้สมัครฯ ส.ส.ทั้ง 3 เขต ของจังหวัดภูเก็ตอย่างเป็นทางการ โดยในงานดังกล่าวฯ จะได้รับเกียรติจากหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล พร้อมด้วย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และ​ ดร.นาที รัชกิจประการ ร่วมเป็นเกียรติในงานเปิดตัวฯ ครั้งนี้

           สำหรับ​ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ของภูเก็ตทั้ง 3 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นายนิพนธ์ เอกวานิช (โก้จ๋าย) เขต 2 นายวิวัฒน์ จินดาพล (สจ.ต้อม) และเขต 3 นายวงศกร ชนะกิจ (แบงค์)

              ทางด้าน​ นายนิพนธ์ เอกวานิช (โก้จ๋าย) ว่าที่ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย ภูเก็ต เขต 1 กล่าวว่า เขามีความมั่นใจในพรรคภูมิใจไทย ซึ่งจากผลงานของพรรคที่ผ่านมาในพื้นที่ภูเก็ตมีความเด่นชัดทั้งในเรื่องของมาตรการการป้องกัน โควิด-19 ควบคู่กับการท่องเที่ยว ซึ่งในช่วงที่ภูเก็ตเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ส่วนตัวก็เคยทำงานและเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของคณะทำงาน Phuket Sandbox ในพื้นที่ ของจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับสมาคม, องค์กร, หน่วยงานต่าง ๆ ของภาครัฐ

               นอกจากนี้ เรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การพัฒนาถนนหนทาง โครงการรถไฟฟ้ารางเบา ที่จะมารองรับเมืองท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตที่กำลังจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงยังได้มองเห็นโอกาสที่จังหวัดภูเก็ตนั้นจะสามารถเป็นจังหวัดที่เป็นหัวเรือนำร่อง Hub ของการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดอันดามันได้ ทั้งภูเก็ต, พังงา ,กระบี่ และระนอง โดยสามารถบูรณาการ และต่อยอดการท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพ และส่งเสริมเศรษฐกิจเพิ่มเม็ดเงินในพื้นที่ให้กับชาวบ้านได้มากยิ่งขึ้น

                 ส่วน​ นายวิวัฒน์ จินดาพล ว่าที่ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย ภูเก็ต เขต 2 (สจ.ต้อม) เปิดเผยว่า จากการปฎิบัติหน้าที่ในพื้นที่ในฐานะ สจ.ที่ผ่านมา ทำให้ได้เห็นถึงปัญหาที่แท้จริงของพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอถลาง ซึ่งส่วนตัวก็ได้เข้าไปคลุกคลีอยู่กับชาวบ้าน และทราบว่าชาวบ้านในพื้นที่ต้องการอะไร โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์ที่จังหวัดภูเก็ตนั้นต้องเผชิญกับโรคระบาด และยังมีประชาชนผู้ประกอบการอีกหลากหลายสาขาอาชีพที่ยังได้รับผลกระทบมาจนถึงปัจจุบัน ฉะนั้นเรื่องของปากท้องชาวบ้านและการช่วยเหลือทางด้านอาชีพให้สามารถที่จะลุกขึ้นมาและยืนอยู่ได้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยจากการได้ศึกษานโยบายของพรรคฯ อาทิ กองทุน กยศ., ฟอกไตฟรี, 30 บาทรักษาทุกที่ ก็ถือว่าจะตอบโจทย์ประชาชนคนรากหญ้าได้อย่างชัดเจน

                 ทั้งนี้​ ส่วนตัวเองมีความเชื่อมั่นว่าพรรคภูมิใจไทยนั้นในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาก็มีผลงานที่โดดเด่นและชัดเจนมาก ๆในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ทั้งในเรื่องของการผลักดันส่งเสริมการท่องเที่ยว ทำให้ภูเก็ต เป็นจังหวัดนำร่องเปิดการท่องเที่ยวในโครงการ Phuket Sandbox

                ในฐานะที่ตนอยู่ในพื้นที่อำเภอถลาง ซึ่งทางนโยบายของพรรคฯ โดยกระทรวงคมนาคมเองนั้น ก็ได้มีการริเริ่มโครงการรถไฟฟ้ารางเบาขึ้น ซึ่งก็ถือว่าน่าจะเป็นประโยชน์ และตอบโจทย์ในเรื่องของเมืองท่องเที่ยวที่จะพัฒนาในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เมืองท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตต่อไป

                ส่วนด้าน​ นายวงศกร ชนะกิจ (แบงค์) ว่าที่ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย ภูเก็ต เขต 3 กล่าวว่า จากการที่ได้มีการขับเคลื่อนผ่านทาง “กลุ่มขับเคลื่อนภูเก็ต” ในช่วงที่เกาะภูเก็ตเองเจอกับพิษเศรษฐกิจการระบาดของโควิด-19 ทำให้การท่องเที่ยวหยุดชะงักไปโดยปริยาย ซึ่งที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ไปพบกับกลุ่มผู้ที่เดือดร้อนจำนวนมาก อาทิ กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs โรงแรมขนาดเล็ก กลุ่มผู้ค้ารายย่อย กลุ่มอาชีพท่องเที่ยว และรวมไปถึงผู้ประกอบการสถานบันเทิง ในพื้นที่โดยเฉพาะในตำบลป่าตอง, กะตะกะรน ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ยังได้รับผลกระทบต่อเนื่องยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน โดยจากการที่ได้มีการประสานไปยังคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติเพื่อขอความช่วยเหลือ ทั้งในเรื่องของการเสนอให้สถาบันทางการเงินเข้ามาช่วยเหลือเรื่องของเงินทุนและพักชำระหนี้ต่าง ๆ รวมไปถึงการประสานในเรื่องของการแก้ไขข้อกฎหมายของโรงแรมขนาดเล็ก ซึ่งขณะนี้ก็ยังมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้มีร่างการแก้ไขกฎกระทรวงเพื่อผลักดันให้มีกฎหมายที่พักขนาดเล็กต่าง ๆ รวมไปถึงการผลักดันการเปิด-ปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่จะมีการผลักดัน และก่อนนี้ได้เดินทางลงมาในพื้นที่ป่าตองเพื่อสำรวจความคิดเห็นของพี่น้องผู้ประกอบการสถานบันเทิงในเรื่องดังกล่าว เป็นต้น

                 โดยส่วนตัวเองก็มีความตั้งใจและอยากจะเห็นการท่องเที่ยวของภูเก็ตกลับมาอย่างยั่งยืน รายได้ของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว พลิกฟื้นกลับดีเฉกเช่นเดิม ซึ่งมองว่า สิ่งที่พรรคภูมิใจไทยได้ให้ความสำคัญกับจังหวัดภูเก็ตมากๆ ทั้งโครงการ Phuket Sandbox หรือ การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ Specialised Expo 2028 ก็ดี เป็นสิ่งที่คนภูเก็ตได้ประโยชน์

              เพราะฉะนั้น ผู้ประกอบการในพื้นที่ก็ต้องเป็นกลุ่มที่จะสามารถลุกขึ้นยืนได้ และได้ใช้ทรัพยากรในพื้นที่ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เพื่อที่จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว การท่องเที่ยว และทำให้เศรษฐกิจการค้าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตดีขึ้น

              ในส่วน ดร.นาที รัชกิจประการ ประธานคณะที่ปรึกษา และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า หากจะกล่าวถึงความพร้อมของพรรคภูมิใจไทย ในจังหวัดภูเก็ต ตนคิดว่ามีความพร้อมลงตัวแล้ว โดยเฉพาะในส่วนของผู้สมัครทั้ง 3 เขต พร้อมที่จะปักธงได้ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งผู้สมัครแต่ละท่านมีผลงานในพื้นที่มาโดยตลอด เฉกเช่นเดียวกับพรรคภูมิใจไทย ที่พรรคให้ความสำคัญกับจังหวัดภูเก็ต และกลุ่มจังหวัดอันดามันเป็นอย่างมาก เพราะประเทศไทยมีความจำเป็นต้องฟื้นประเทศด้วยการท่องเที่ยว หลังจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มดีขึ้น พรรคภูมิใจไทย ภายใต้กระทรวงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ให้ความสำคัญกับจังหวัดภูเก็ตเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมาเรามีผลงาน คิดจริง และทำได้จริง #พูดแล้วทำ หากให้โอกาสเราปักธง ทั้ง 3 เขต ซึ่งวันนี้ตัวผู้สมัครมีความพร้อมแล้ว จึงอยากให้คนภูเก็ตให้โอกาสเข้ามารับใช้พี่น้องชาวภูเก็ต กลับมาสานงานให้ลุล่วงต่อไป