ภูเก็ตพบผู้ป่วยโควิด 19 เพิ่ม 3 ราย จากพื้นที่บางเทา โดยมี 2 ราย เป็นครู รวมสะสม 196 ราย หายกลับบ้านแล้ว 150 ราย

         วันที่ 22 เมษายน 2563 คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม – 21 เมษายน 2563 จังหวัดภูเก็ตมีผู้ติดเชื้อยืนยันโรคโควิด-19 แล้วจำนวน 196ราย (รายใหม่ 3 ราย) โดยผู้ติดเชื้อได้รับอนุญาตให้ กลับบ้าน 150 ราย (เพิ่มขึ้นจากเดิม 17 ราย) จำหน่าย 1 ราย (จำหน่าย เนื่องด้วยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์) กำลังรักษาพยาบาลอยู่ 45 ราย ในจำนวนนี้ อาการรุนแรง 4 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ที่เหลืออาการอยู่ในเกณฑ์ที่ดี

          ผู้มีอาการเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 3,113 ราย (รายใหม่ 75 ราย)โดยยังคงรักษาพยาบาล 82 ราย ในจำนวนนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 37 ราย กลับบ้านแล้ว 3,031 ราย สำหรับผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 รายใหม่ทั้ง 3 ราย มีรายละเอียดดังนี้

– ลำดับที่ 1 รายที่ 194 หญิงไทย อายุ 42 ปี อาชีพครู เป็นผู้อยู่ในพื้นที่เสี่ยง เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดของผู้ป่วยยืนยันรายที่ 195 พักอาศัยที่บางเทา ม.2 ต.เชิงทะเล อ.ถลางโดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 18 เมษายน 2563 มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 5 ราย

– ลำดับที่ 2 รายที่ 195 ชายไทย อายุ 44 ปี อาชีพครู เป็นผู้อยู่ในพื้นที่เสี่ยง สัมผัสใกล้ชิดของผู้ป่วยรอยืนยันผลการตรวจ พักอาศัยที่บางเทา ม.2 ต.เชิงทะเล อ.ถลางโดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 18 เมษายน 2563 มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 5 ราย

– ลำดับที่ 3 รายที่ 196 ชายไทย อายุ 82 ปี ไม่ประกอบอาชีพ เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดของผู้ป่วยยืนยันรายที่ 195 พักอาศัยที่บางเทา ม.2 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ไม่มีอาการป่วย

          ทั้งนี้ผู้ป่วยรายนี้ ทีมงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตและผู้เกี่ยวข้องได้ดำเนินการสอบสวน ควบคุม ป้องกันโรคตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข

            สำหรับผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 ที่พบเพิ่มในวันนี้ ทั้งหมดอาศัยอยู่ในเขตบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง และเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงสูงเช่นพักอาศัยในบ้านเดียวกัน ซึ่งจากข้อมูลข้างต้นนี้จะเห็นได้ว่า โรคโควิด-19 สามารถติดต่อจากคนไปสู่คนได้ง่ายโดยเฉพาะบุคคลใกล้ชิด จึงขอเน้นย้ำ เรื่องมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมถึงแม้จะไม่มีอาการป่วยก็ควรแยกตัวเองออกจากบุคคลอื่น งดกิจกรรมรวมกลุ่มที่ไม่จำเป็น ไม่เข้าไปในที่ชุมชนใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์บ่อยๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปสู่บุคคลที่เรารัก และถ้าหากมีอาการไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ เหนื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ปวดศีรษะ ถ่ายเหลวให้รีบไปพบแพทย์ สำหรับประชาชนทั่วไป ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด