ภูเก็ตพสกนิกรร่วมวางดอกไม้จันทน์ เข้าคิวรอเช้ามืดยาวกว่า2กิโลเมตร

         พระราชพิธีพระราชทานเพลิง พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ผ่านไปอย่างสมพระเกียรติ ปวงพสกนิกรประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า และต่างชาติ เข้าร่วมพิธีจำนวนมหาศาล ที่จังหวัดภูเก็ต มีพสกนิกรเข้าคิวรอวางดอกไม้จันทน์ที่ บริเวณจุดคัดกรอง ทั้ง 3 อำเภอ ตั้งแต่ก่อน 6 โมงเช้า โดยเฉพาะที่ยิมเนเซียม 4,000 ที่นั่ง เข้าคิวรอริมคลองบางใหญ่ยาวกว่ากิโลเมตร เริ่มวางชุดแรก 9 โมงเช้า จนกระทั่งชุดสุดท้ายเวลา 02.00 น.ของวันใหม่ โดยมีผู้ว่าฯ และนายอำเภอ เป็นประธานในพิธี ในพื้นที่ เช้ารุ่งขึ้น ผู้ว่าฯ จึงได้อัญเชิญเถ้าดอกไม้จันทน์ลงเรือหลวงนราธิวาส ไปลอย กลางทะเลบริเวณหน้าแหลมพรหมเทพ สรุปยอดพสกนิกรชาวภูเก็ตเข้าวางดอกไม้จันทน์ 8 หมื่นคน ที่กรุงเทพฯ เปิดพระเมรุมาศให้ประชาชนเข้าชม มีรถเมล์บริการฟรี 6 สาย หลังพระราชพิธีโลกโซเชียล  ต่างโพตส์ภาพควันหลงหลากหลายลีลาล้วนสรรเสริญเจ้าหน้าที่ และผู้กระทำดี โดยเฉพาะ อส.หญิงอำเภอถลาง ได้รับการยกย่องความดีเป็นพิเศษ

พสกนิกรชาวภูเก็ต

วางดอกไม้จันทน์ถึงตี2

         เมื่อเช้าวันที่ 26 ตุลาคม 2560 นับเป็นวันประวัติศาสตร์อีกวันหนึ่งของประเทศไทย ที่มหาปวงพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าทั้งแผ่นดิน และต่างชาติ ได้แสดงความอาลัยยิ่งเป็นครั้งสุดท้าย ในการเข้าวางดอกไม้จันทน์ ณ เมรุมาศที่ท้องสนามหลวง และเมรุมาศจำลองทั่วประเทศ เฉพาะที่จังหวัดภูเก็ต พสกนิกรชาวภูเก็ตทุกหมู่เหล่าได้ทยอยเดินทางเข้ามาที่บริเวณเวทีกลางสะพานหิน ตั้งแต่เช้าตรู่ โดยเฉพาะบริเวณถนนเลียบคลองบางใหญ่ ประชาชนได้ต่างเดินเท้าทยอยเข้าสู่จุดคัดกรองโรงยิมเนเซียม 4,000 ที่นั่ง ศูนย์กีฬาสะพานหิน ระยะทางยาวร่วม 2 กิโลเมตร ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวของตอนสายย แต่ประชาชนยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะเข้าวางดอกไม้จันทน์ เบื้องหน้าพระเมรุมาศจำลอง ถวายความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นครั้งสุดท้าย

         เมื่อเข้าถึงในบริเวณพื้นที่จะต้องเข้าไปทำการคัดกรองที่ โรงยิมเนเซียม 4,000 ที่นั่ง ศูนย์กีฬาสะพานหิน จะได้รับประทานอาหารและเครื่องดื่ม แล้วซักซ้อม ขั้นตอนการถวายดอกไม้จันทน์ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะจัดให้เข้าแถวและนำเข้าสู่บริเวณมณฑลพิธี ภายในเต้นท์ มีเก้าอี้นั่งรองรับประชาชนไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นคน มีเจ้าหน้าที่พยาบาล และจิตอาสาคอยดูแลอำนวยความสะดวกทุกอย่าง สำหรับผู้สูงอายุ และคนพิการ (นั่งวีลแชร์) ก็มีการจัดช่องทางพิเศษอำนวยความสะดวกให้สามารถเข้าร่วมวางดอกไม้จันทน์เบื้องหน้าพระเมรุมาศจำลองได้อย่างใกล้ชิดเช่นกัน

         กระทั่งถึงเวลา 09.00 น. นายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัด ได้นำข้าราชการและประชาชน ร่วมวางดอกไม้จันทน์ในช่วงเช้าไปจนถึงเวลา 15.00 น. นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้เป็นประธานฝ่ายฆราวาส นำหัวหน้าส่วน และข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ ประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ตทุกหมู่เหล่า กว่า 50,000 คน ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วยพระราชสิริมุนี เจ้าคณะจังหวัดภูเก็ต เจ้าอาวาสวัดท่าเรือ ประธานฝ่ายสงฆ์ ในเวลา และเช่นเดียวกับทางส่วนกลาง

         โดยประธานในพิธีได้จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จุดเครื่องทองน้อย ถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระสงฆ์ 10 รูป สวดเจริญพระพุทธมนต์ พระสงฆ์แสดงธรรมเทศนา เกี่ยวกับพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีต่อจังหวัดภูเก็ต จากนั้นผู้ร่วมพิธีบำเพ็ญสมาธิจิต เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ เป็นเวลา 89 วินาที ประธานประเคนเครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์ผู้แสดงธรรมเทศนา และพระสงฆ์สวดเจริญพระพุทธมนต์ เจ้าหน้าที่ลาดผ้ารองโยง และพระภูษาโยง ประธานทอดผ้าไตรสดับปกรณ์ เจ้าหน้าที่เชื่อมแถบทองกับพระภูษาโยง พระสงฆ์สดับปกรณ์ ประสงฆ์อนุโมทนา ประธานกรวดน้ำ รับพร เป็นเสร็จพิธีในช่วงที่สอง

         ขณะที่อำเภอกะทู้ ที่ซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ ณ วัดอนุภาษกฤษฎาราม (วัดเก็ตโฮ่) อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นายชูชีพ บำรุง ปลัดอาวุโส อำเภอกะทู้ เป็นประธานในพิธีวางดอกไม้จันทน์ โดยมี พระครูวิชิตสังฆไพโรจน์ เจ้าอาวาสวัดอนุภาษกฤษฎาราม และที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอกะทู้ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์, คณะสงฆ์, นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง, นายชัยอนันต์  สุทธิกุล นายกเทศมนตรีเมืองกะทู้, หัวหน้าส่วนราชการประจำอำเภอ ประชาชน และจิตอาสาเฉพาะกิจ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงฯ เข้าร่วมในพิธีจำนวนมาก

         ส่วนที่บริเวณซุ้มวางดอกไม้จันทน์  วัดเทพวนาราม (วัดม่าหนิก)  อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต นายอดุลย์ ชูทอง นายอำเภอถลาง เป็นประธานฝ่ายฆราวาส เป็นประธานในพิธีถวายดอกไม้จันทน์  พระครูพรหมประภัสสร เจ้าคณะอำเภอถลาง /เจ้าอาวาสวัดเทพวนาราม  ประธานฝ่ายสงฆ์ และมี หัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ตทุกหมู่เหล่า กว่า 5,000 คน เข้าร่วมเพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ และร่วมแสดงถวายความอาลัยฯ

         ตกกลางคืน เวลา 22.30 น.ซึ่งเป็นเวลาประกอบพระราชพิธีถวายพระเพลิง นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้เป็นประธานอัญเชิญไฟหลวงพระราชทานจากศาลาทรงไทยไปประกอบพิธี นำช่อดอกไม้จันทน์ต่อไฟหลวงพระราชทานจากโคมตะเกียงวางลงในจิตกาธาน จากนั้นข้าราชการสวมเครื่องแบบปกติขาวไว้ทุกข์อัญเชิญดอกไม้จันทน์ เผาในจิตกาธาน อย่างต่อเนื่อง ส่วนปวงพสกนิกรทุกหมู่เหล่ายังคงวางดอกไม้จันทน์อย่างต่อเนื่องจนถึงชุดสุดท้ายเวลาประมาณ 02.00 น หรือตี 2 ของวันใหม่ (ที่ 27 ตุลาคม 2560)

         โอกาสนี้จังหวัดภูเก็ตได้จัดมหรสพการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย เพื่อถวายความอาลัยแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร  ประกอบด้วย  การบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์ จากวงซิมโฟนิค, การบรรเลงดนตรีไทย จากโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย, การแสดงโขน ตอน ยกรบ จากโรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญา ในพระอุปถัมภ์, การแสดงมโนราห์ จากสาขาศิลปะการแสดง มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต และคณะมโนราห์ฟ้าใส และการแสดงดนตรีบรรเลงและขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์จากสาขาดนตรีศึกษาคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต

 

นำเถ้าดอกไม้จันทน์

ลอยหน้าแหลมพรหมเทพ

         ต่อมาวันรุ่งขึ้นเมื่อเวลา 08.00 น. (27 ตุลาคม) นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต  เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในการอัญเชิญพระโกศบรรจุเถ้าดอกไม้จันทน์ และถุงบรรจุเถ้าดอกไม้จันทน์ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ บริเวณพระเมรุมาศจำลอง เวทีกลางสะพานหิน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต  โดยมีการประกอบพิธีทางศาสนาพระสงฆ์  9 รูป สวดเจริญพระพุทธมนต์ หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน และประชาชน เข้าร่วมพิธี

         จากนั้น เวลา 10.00 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต อัญเชิญพระโกศบรรจุเถ้าดอกไม้จันทน์และถุงบรรจุเถ้าดอกไม้จันทน์ ขึ้นเรือหลวงนราธิวาส ไปลอยเถ้าดอกไม้จันทน์ ที่บริเวณ แหลมพรหมเทพในทะเลอันดามัน โดยมีการประกอบพิธีอย่างสมพระเกียรติ นำขบวนโดยเรือหลวงนราธิวาส, เรือหลวงหัวหิน,  เรือ ต.232, เรือ ตร.น.814 และ เรือ ทช .603

         โดย นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต  ถวายราชสักการะ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จากนั้นได้ประกอบพิธีลอยเถ้าดอกไม้จันทน์ โดยเรือหลวงนราธิวาสหมุนวนซ้ายจำนวน 3 รอบ เมื่อเรือวนครบ 3 รอบ ผู้ร่วมพิธีทำความเคารพ แตรเดี่ยวเป่าเพลงคำนับ 3 จบ และแตรเดี่ยวเป่าจบ เป็นเสร็จพิธี

         และเวลา 13.30 น. นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมคณะ ได้อัญเชิญพระโกศ ,โคมตะเกียง และถุงที่ใช้บรรจุเถ้าดอกไม้จันทน์  มาวางไว้เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ภายในมณฑป วัดมงคลนิมิตร พระอารามหลวง และหลังจากนี้จะมีการอัญเชิญพระนพปฎลสุวรรณฉัตรมาเก็บไว้ที่วัดมงคลนิมิตร วัดพระอารามหลวง ด้วย

สรุปยอดพสกนิกรภูเก็ต

วางดอกไม้จันทน์ 8 หมื่นคน

         หลังเสร็จสิ้นพระราชพิธี จังหวัดภูเก็ตได้สรุปยอดรวมที่ พสกนิกรในจังหวัดภูเก็ต เดินทางมาร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทั้ง 3 อำเภอของจังหวัดภูเก็ต สรุปยอดรวมทั้งสิ้น 79,800 คน โดยเฉพาะ อ.เมืองภูเก็ต ณ พระเมรุมาศจำลอง บริเวณสะพานหิน อ.เมืองภูเก็ต จำนวน 38,000 คน มีประชาชนเดินทางไปรวมงานอย่างหนาแน่น ส่วน ซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ วัดเทพวนาราม (วัดม่าหนิก) ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จำนวน 25,000 คน และซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ วัดอนุภาษกฤษฎาราม (วัดเก็ตโฮ่) ต.กะทู้ อ.กะทู้ จำนวน 16,800 คน

         บรรยากาศภายในงานพิธีถวายดอกไม้จันทน์ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มีประชาชนทั่วทั้งจังหวัดหลั่งไหลเดินทางเข้ามาภายในงาน บริเวณ ณ พระเมรุมาศจำลอง บริเวณสะพานหิน อ.เมืองภูเก็ต จำนวน 38,000 คน มีทั้ง ประชาชน และข้าราชการยืนรอต่อแถวยาวกว่า 2 กิโลเมตร และบางคนที่พาลูกหลานเดินทางมาร่วมในพิธีถวายดอกไม้จันทน์ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ต่างก็ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค์ใดๆ ทั้งสิ้น

         อย่างไรก็ตาม สำหรับพิธีดังกล่าวเป็นพิธีที่สำคัญของประวัติศาสตร์ชาติไทย และขอมีส่วนร่วมในการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และความอาลัยต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

เปิดให้ชมนิทรรศการ

พระเมรุมาศ 2-30 พ.ย.

         สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จฯ เป็นประธานเปิดนิทรรศการ ในวันที่ 2 พฤศจิกายน เปิดให้เข้าชม ตั้งแต่วันที่ 2 -30 พฤศจิกายน2560 ตั้งแต่เวลา 07.00-22.00 น. เบื้องต้นจะเปิดให้เข้าชมอย่างอิสระ รอบละ 5,500 คน สามารถรองรับประชาชน ได้วันละ 104,000 คน

         กำหนดเวลาเข้าชมรอบละ 1 ชั่วโมง แบ่งเป็น ให้ประชาขนถ่ายภาพ เป็นที่ระลึกบริเวณ ถนนเส้นกลาง ทางเข้าพระเมรุมาศ ซึ่งจะเห็นภาพแปลงนาเลขเก้าไทย และภาพภูมิทัศน์ส่วนต่างๆ ของพระเมรุมาศในมุมกว้าง 15 นาที จากนั้น จะให้เข้าชม พื้นที่ด้านใน 45 นาทีโดยให้เข้าชมอย่างอิสระ ในส่วนของพระเมรุมาศ จะเปิดให้ขึ้นลงได้ 2 ด้าน พระที่นั่งทรงธรรม ซึ่งจัดแสดง พระราชประวัติ และประราชกรณียกิจ รวมถึงยังมีภาพจิตกรรมโครงการในพระราชดำริ ให้ชมทั้ง 3 ด้าน

         มีจุดคัดกรอง 5 จุด 1.ประชาชนทั่วไปให้เข้า ในจุดคัดกรอง 3 จุด บริเวณหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (รด.) ท่าช้าง พระแม่ธรณีบีบมวยผม 2.ผู้พิการเข้าตรงจุดคัดกรองหลังกระทรวงกลาโหม 3.พระภิกษุ สามเณร เข้าทางด้านหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ผู่เข้าชม ประชาชนแต่งชุดสุภาพ เช่นเดียวกับการเข้าชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว

งดเว้น สายเดี่ยว กางเกงขาสั้น และเสื้อ แขนกุด 

         เข้าชมนิทรรศการได้ตั้งแต่เวลา 7.00-22.00 น. ผู้ประสงค์จะเข้าชมนิทรรศการ สามารถเข้าคิวรอตรงจุดพักรอบริเวณเต็นท์ที่จัดเตรียมไว้ เพื่อรอคิวเข้าชม การเข้าชมจะใช้แนวปฏิบัติเดียวกับการกราบถวายบังคมพระบรมศพ  โดยจะจัดเป็น 4 แถว

         สำหรับในกรุงเทพฯ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จะจัดรถโดยสารให้บริการฟรี ใน 6 เส้นทาง ตั้งแต่เวลา 05.00-23.00 น.เส้นทางละ 10 คัน รอบละ 60 คัน ได้แก่

1. อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-สนามหลวง

2. หัวลำโพง-สนามหลวง

3. วงกลมรอบเกาะรัตนโกสินทร์-สนามหลวง

4. เอกมัย-สนามหลวง

5. สายใต้ใหม่-สนามหลวง

6. หมอชิต-สนามหลวง

         ภายในบริเวณพระเมรุมาศ  มีการแสดงมหรสพ และการแสดงชุดต่างๆ เวลา 18.00-22.00 น. มีการประโคมดนตรี วงบัวลอย บริเวณศาลาลูกขุน เวลา 08.00-17.00 น. ทุกวันเสาร์ และอาทิตย์ จะมีการแสดงโขนหน้าพระที่นั่งทรงธรรม เพื่อให้ผู้เข้าชมนิทรรศการ ได้ซึบซับบรรยากาศเสมือนวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ

อส.ถลางน้ำใจงาม

กระหึ่มโลกโซเชียล

         ภายหลังพระราชพิธีถวายพระเพลิง พระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ปรากฏว่า มีภาพการทำงาน ของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งจิตอาสาเฉพาะกิจ และ ประชาชน ที่มาร่วมกันทำงานอำนวยความสะดวก ให้กับประชาชนที่เดินทางมาร่วมวางดอกไม้จันทน์ตามสถานที่ ที่ทางจังหวัดจัดไว้ ไม่ว่าจะเป็น บริเวณพระเมรุมาศจำลอง บริเวณสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต วัดม่าหนิก อ.ถลาง จำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นภาพการช่วยเหลือประชาชน การเอาใจใส่ดูแลโดยทุกคนมีจุดหมายเดียวกันขอให้ทุกคนที่เดินทางมาแล้วได้ร่วมวางดอกไม้จันทน์เพื่อส่งพ่อหลวงสู่สวรรค์คาลัยเป็นครั้งสุดท้าย

         ภาพที่มีการแชร์และเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมากขณะนี้คือ ภาพของ อส.ผู้หญิงหน้าตาดีกำลังก้มลงเปลี่ยนรองเท้าให้กับหญิงสูงวัยที่สวมรองเท้าแตะมา และยังมีภาพที่กำลังสวมกระโปรงให้กับเด็กที่นุ่งกางเกงลายขาวดำ ระหว่างปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่วัดเทพวนาราม หรือ วัดม่าหนิก ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา

         ภาพดังกล่าวโพสต์โดยผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ “Buree Thammarak” ใจความว่า “ภาพสุดประทับใจ ด้วยรอยยิ้ม ด้วยเต็มใจ ด้วยสำนึกเพื่อพ่อ เมื่อ อส.หญิง อำเภอถลาง ภูเก็ต คุกเข่าเปลี่ยนและสวมรองเท้าให้กับคุณป้า และหากระโปรงมาให้น้องสวมใส่ เพื่อเข้าร่วมถวายดอกไม้จันทน์ ที่วัดม่านิก อำเภอถลาง “ -ป้า ไม่มีรองเท้า เอาของหนูไปใส่ก่อนนะค่ะ – น้องไม่มีกระโปรง หาให้นะคะ”

         จากการสอบถามพบว่า อส.หญิง ที่ก้มสวมรองเท้าให้คุณยายและสวมกระโปรงให้เด็กหญิงในวันนั้น คือนางสาวแสงมณี ชูช่วย อายุ 34 ปี เป็น อส.ถลาง ที่ 3 (ชุด นรสิงห์ ) ปัจจุบันทำงานเป็นพนักงานโรงแรมบันยันทรี รีสอร์ทแอนด์สปา ลากูน่าภูเก็ต อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมกับกล่าวว่า เมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ตนได้รับมอบหมายจากอำเภอถลาง ให้ปฏิบัติหน้าที่จุดคัดกรอง ที่วัดเทพวนาราม หรือ วัดม่าหนิก ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

         ขณะนั้นประชาชนเดินทางมาร่วมวางดอกไม้จันทน์จำนวนมาก เห็นคุณยายเดินทางมากับลูกสาว ซึ่งคุณยายสวมรองเท้าคล้ายรองเท้าแตะ ผ่านจุดคัดกรองจุดแรกเพื่อเข้าไปวางดอกไม้จันทน์ คิดว่า เจ้าหน้าที่คัดกรองส่วนในคงไม่ให้คุณยายผ่านไปวางดอกไม้จันทน์ตามความตั้งใจของคุณยายแน่นอน จึงถามคุณยายว่าบ้านยายอยู่ไกลหรือเปล่า หากไม่ไกลก็จะให้คุณยายไปเปลี่ยน ในระหว่างนั้นคุณยายบอกว่าคุณยายไม่มีรองเท้าที่จะสวมใส่ไปวางดอกไม้จันทน์ หรอกลูก แต่คุณยายตั้งใจจะมาวางดอกไม้จันทน์ให้ในหลวงเป็นครั้งสุดท้าย และคุณยายบอกว่าขณะนี้คุณยายก็ไม่สบาย แถมมีเท้าบวม จึงบอกคุณยายว่า ให้คุณยายรอที่จุดนี้นะ เดี่ยวไปเอารองเท้าในรถมาให้คุณยายลองสวมใส่ เพื่อได้เข้าไปวางดอกไม้จันทน์

         เมื่อตนเอารองเท้ามาให้คุณยายสวมใส่ปรากฏว่าคุณยายไม่สามารถสวมใส่ได้ รองเท้าขนาดเล็กกว่าเท้าของคุณยายประกอบกับเท้าคุณยายบวมมาก ตนเห็นความตั้งใจของคุณยายที่ตั้งใจมาทำเพื่อพ่อครั้งสุดท้าย ตนจึงก้มลงแล้วสวมรองเท้าให้คุณยาย แม้ว่ารองเท้าเล็กกว่าเท้าคุณยาย แต่ก็พยายามให้คุณยายใส่ให้ได้ ไม่ได้คิดว่า รองเท้าตนจะพัง เมื่อใส่รองเท้าให้คุณยายเสร็จแล้ว คุณยายก็สวมกอดและร้องให้ กับหนู หลังจากคุณยายวางดอกไว้จันทน์เสร็จแล้ว คุณยายก็เอารองเท้ามาคืน และสวมกอดร้องให้กับตนอีกครั้ง ตนก็ร้องให้ไปกับคุณยายด้วย ดีใจที่ได้ช่วยให้คุณยายได้ทำในสิ่งที่คุณยายตั้งใจ เพื่อพ่อหลวง

         อส.หญิงผู้มีน้ำใจงามรายนี้ กล่าวอีกว่า ในระหว่างที่คุณยายเข้าไปวางดอกไม้จันทน์นั้น ตนเห็นน้องผู้หญิงรายหนึ่ง มากับครอบครัวซึ่งน้องสวมกางเกงไม่เหมาะสม มายังจุดคัดกรองที่ตนปฏิบัติหน้าที่อยู่อีก จึงบอกว่ากางเกงลักษณะนี้ เจ้าหน้าที่ส่วนในก็คงจะไม่ให้ผ่านไปวางดอกไม้จันทน์ ตนบอกให้น้องรอแล้ววิ่งไปที่รถยนต์อีกครั้งเพื่อไปเอากระโปรงของตนที่เตรียมมาเพื่อเปลี่ยนชุดหลังจากพลัดเปลี่ยนเวรในการปฏิบัติหน้าที่คัดกรอง แล้ว ตนจะสวมใส่ไปวางดอกไม้จันทน์ เอามาให้น้องผู้หญิงคนดังกล่าวสวมใส่ก่อน

         ขณะนั้นตนมีความตั้งใจให้ทุกคนที่มาได้เข้าไปวางดอกไม้จันทน์ ตนเข้าใจความรู้สึกของทุกคนว่า ต้องการมาทำหน้าที่ครั้งสุดท้ายในหน้าที่ของลูก เพื่อส่งพ่อกลับสู่สวรรค์คาลัย เมื่อเห็นใครแต่งตัวมาไม่พร้อม ก็จะเอาชุดของตนไปให้ประชาชนคนอื่นสวมใส่ก่อน เพื่อได้เข้าไปวางดอกไม้จันทน์ โดยไม่คิดว่าจะมีคนถ่ายภาพ เอาไปโพสต์แล้วมีการแชร์ จนมีคนชื่นชมแบบนี้ ตนตั้งใจทำเพื่อให้ทุกคนได้เข้าไปวางดอกไม้จันทน์ ตามความตั้งใจที่เดินทางมา เพื่อทำหน้าที่ลูกครั้งสุดท้าย เพื่อส่งพ่อสู่สวรรค์คาลัย

         เช่นเดียวกับการอำนวยความสะดวกของจิตอาสา และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่ จนมีภาพออกมาหลายๆภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาพเจ้าหน้าที่ อส.กำลังอุ้มคนเป็นลม เพื่อนำไปส่งยังจุดพยาบาล ภาพเจ้าหน้าที่กำลังเข็นรถคนพิการเพื่อพาไปร่วมวางดอกไม้จันทน์ ภาพเจ้าหน้าที่พยาบาล หมอกำลังให้การรักษาคนเจ็บคนป่วย ภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินตากฝนเพื่อดูแลความปลอดภัย ภาพการแจกจ่ายสิ่งของให้กับคนที่มาเข้าแถว เพื่อรอคิวเข้าวางดอกไม้จันทน์ ภาพคนพิการกำลังก้มเก็บขยะที่ถูกทิ้งตามรายทาง หรือแม้แต่ภาพของช่างภาพด้วยกันที่ยอมยืนตากฝนเพื่อเก็บภาพให้กับทางจังหวัด และอื่นๆ อีกจำนวนมาก

พ่อเมืองภูเก็ต ขอบคุณจิตอาสาเฉพาะกิจฯ และทุกภาคส่วนที่ร่วมกัน

จัดกิจกรรมงานถวายดอกไม้จันทน์ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้อย่างสมพระเกียรติ

         เมื่อวันที่ 31 ต.ค.60 ที่ห้องประชุมชั้น 2 อาคารคอซิมบี้ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตกล่าวในโอกาสการเป็นประธานการประชุมคณะกรมการจังหวัดภูเก็ต ข้าราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครั้งที่ 10/2560 ประจำเดือนตุลาคม 2560 ว่า การจัดงานถวายดอกไม้จันทน์เนื่องในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ของจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2560 เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติอย่างที่สุด จึงขอขอบคุณทุกหน่วยงานโดยเฉพาะจิตอาสาเฉพาะกิจทั้ง 8 งาน องค์กรรัฐ ภาคเอกชนที่ร่วมกันจัดกิจกรรมได้ประสบความสำเร็จด้วยดี แม้ว่าบางช่วงจะมีฝนตกหนักแต่ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ยอมตากฝนในการที่จะให้บริการประชาชนแสดงออกถึงความจงรักภักดีที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อย่างเต็มเปี่ยม

         ทั้งนี้การทำความดีถวายพระองค์ท่านเป็นวาระสุดท้ายที่เราสามารถทำได้  ซึ่งเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงทำให้กับพสกนิกรทุกหมู่เหล่ามาตลอดระยะเวลา 70 ปีที่ทรงครองราชย์