รมว.ทส.ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้ขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทว พร้อมมอบแนวทางในการดำเนินงานโครงการคืนชะนีสู่ป่า

รมว.ทส.ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้ขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทว พร้อมมอบแนวทางในการดำเนินงานโครงการคืนชะนีสู่ป่า

           เมื่อวันที่​ 17 เม.ย.64​ ที่ผ่านมา​ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปกท.ทส) และผู้บริหารกระทรวงฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้ขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน ณ บริเวณน้ำตกบางแป เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทว ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต พร้อมมอบแนวทางการดำเนินงานโครงการชะนีสู่ป่า​ จากนั้นได้ร่วมปลูกต้นปาล์มหลังขาว หรือปาล์มเจ้าเมืองถลาง ซึ่งที่ป่าควนเขาพระแทว ถือเป็นถิ่นกำเนิดตามธรรมชาติดั้งเดิม เพียงแห่งเดียวในประเทศไทยและในโลก ที่ยังมีการแพร่พันธุ์ตามธรรมชาติของปาล์มชนิดนี้

         นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวได้ให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทุ่มเทในการปฏิบัติงานและดูแลนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ซึ่งหน่วยงานส่วนกลางทราบถึงความยากลำบาก และความเสียสละของทุกท่านในการทำเพื่อให้ทรัพยากรของประเทศคงความอุดมสมบูรณ์ รวมถึงการดูแลสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว เพื่อกลับไปบอกต่อ และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรให้เกิดความยั่งยืน

          นอกจากนี้​ นายวราวุธ กล่าวด้วยว่า นอกจากมาเยี่ยมให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานในส่วนของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทว และภารกิจเกี่ยวกับการดูแลความเป็นอยู่ของชะนี ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกรมอุทยานฯ กับทางองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือ IUCN โดยมูลนิธิช่วยชีวิตสัตว์ป่าแห่ปงระเทศไทยจนประสบความสำเร็จ ทำให้ประเทศไทยเป็นผู้นำในการดูแลและนำชะนีกลับคืนสู่ป่าได้ และยังก่อให้เกิดประโยชน์กับธรรมชาติและคนได้อย่างมากมาย ทั้งในเรื่องของพันธุ์พืช และการดูแลสภาพสิ่งแวดล้อม หลังจากนี้จะได้มีการประสานกับ IUCN ให้มีความใกล้ชิดมากขึ้น และมีแนวคิดในการจะประกาศให้พื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทวให้เป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑล ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ของป่าเขาพระแทว ทั้งความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศน์และธรรมชาติ ซึ่งจะต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป