ราชภัฏภูเก็ต ระดมคลังสมองขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ สนองพระบรมราโชบาย ร.10

         เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2560 ณ โรงแรมในทอนบุรี รีสอร์ท ภูเก็ต อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ “การทบทวนและปรับยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัย เพื่อสนองพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.10” ในการนี้มี ศ.ดร.สมบูรณ์ สุขสำราญ นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตภูเก็ต เป็นประธาน ร่วมด้วย ผศ.ดร.ประภา กาหยี อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ตลอดจน คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัย คณะกรรมการสภาวิชาการ คณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย คณะกรรมการสภาคณาจารย์และข้าราชการ คณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย และคณะกรรมการบริหารวิทยาลัยการท่องเที่ยวนานาชาติเข้าร่วม

         ศ.ดร.สมบูรณ์ สุขสำราญ นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตภูเก็ต กล่าวว่า “ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร ต่อมหาวิทยาลัยราชภัฏ ที่ได้ทรงมอบพระบรมราโชบายด้านการศึกษาผ่านองคมนตรี ใจความตอนหนึ่งว่า ‘ให้แนะนำมหาวิทยาลัยราชภัฏด้วยเจตนารมณ์ในการจัดตั้ง ให้ทำงานให้เข้าเป้าในการยกระดับการศึกษาและพัฒนาท้องถิ่นในท้องที่ตน ดังนั้นการพัฒนามหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต จะต้องพัฒนาให้เป็นสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอันดามันอย่างแท้จริง การวางแผนงานสู่การปฏิบัติเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว ภายใต้การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม หรือการวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์  SWOT Analysis เพื่อประกอบการวางแผนการใช้วิธีการและทรัพยากรเพื่อให้บรรลุเป้าหมายสูงสุด นอกจากนั้นยังต้องมีการปรับปรุงเพื่อให้มีความเชื่อมโยง และสอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ของมหาวิทยาลัยตามแผนยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัย Re-Profiling เพื่อใช้เป็นทิศทางในการพัฒนามหาวิทยาลัยในรอบ 15 ปี

         ดังนั้นมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตจึงจัดการประชุมดังกล่าวขึ้น เพื่อสนองพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ร.10 เพื่อระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับทิศทางการพัฒนามหาวิทยาลัย ศึกษาระบบ และกลไกในการบริหารงานของมหาวิทยาลัยในการขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติติดตามความก้าวหน้า และผลสำเร็จของงานตามนโยบายของสภามหาวิทยาลัย  เสนอแนะแนวคิด หลักการ และแนวทางในการดำเนินงาน จุดแข็งจุดอ่อนในการปรับรูปแบบการดำเนินงานของมหาวิทยาลัย และเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีของคณะกรรมการทั้ง 5 คณะ ซึ่งประกอบไปด้วย คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัย คณะกรรมการสภาวิชาการ คณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย คณะกรรมการสภาคณาจารย์และข้าราชการ และคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย”