อบจ.ภูเก็ต ส่งเสริมบทบาทและพัฒนาศักยภาพสตรี เพื่อการขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหาสังคม

อบจ.ภูเก็ต ส่งเสริมบทบาทและพัฒนาศักยภาพสตรี เพื่อการขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหาสังคม

            เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2564 เวลา 09.00 น. นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานกล่าวเปิดโครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพสตรีไทย โดย นายวัชรินทร์ ปฐมวัฒนพงศ์ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด กล่าวรายงาน และนายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวพบปะผู้เข้าร่วมงาน ณ โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งมี นายไพฑูลย์ ศิลปวิสุทธิ์ ที่ปรึกษานายก อบจ.ภูเก็ต นายหัตถ์ กตัญชลีกุล ประธานสภา อบจ.ภูเก็ต นายปรีชาพัฒน์ ขรรค์วิไลกุล เลขานุการสภา อบจ.ภูเก็ต พร้อมด้วย คณะสมาชิกสภา อบจ.ภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ อบจ.ภูเก็ต และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วม

        สำหรับการฝึกอบรมโครงการฯ ดังกล่าว มีกลุ่มเป้าหมายเป็นสตรีและประชาชนทั่วไปในจังหวัดภูเก็ต จำนวน 360 คน โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญมาบรรยายให้ความรู้ ดังนี้ คุณอัญชลี วานิช  เทพบุตร อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรีผู้หญิงคนแรกแห่งประเทศไทย คุณวธัจริยา ศุทธางกูร นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ คุณรุ่งนภา พุฒแก้ว อนุกรรมการ (ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย) กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และคุณประเสริฐ สืบหมาด ทนายความผู้เชี่ยวชาญ

        นายเรวัต อารีรอบ นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า “เป็นที่ทราบกันดีว่า วันที่ 8 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันสตรีสากล ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของสตรี จึงได้จัดงานโครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพสตรีไทยในครั้งนี้ ซึ่งพี่น้องสตรี ทั้ง 3 อำเภอ ทุกตำบล ทุกหมู่บ้าน ถือว่าทุกท่านเป็นปูชนียบุคคลของคนภูเก็ต

         สำหรับวันนี้ อบจ.ภูเก็ต ได้รับเกียรติจากวิทยากรมาให้วิชาความรู้ ทำให้ทุกท่านได้องค์ความรู้ในหลายมุมมอง อย่างไรก็ตาม หากพี่น้องสตรี ต้องการนำเสนอสิ่งดีๆ ที่อยากให้ อบจ.ภูเก็ตทำ ท่านสามารถสื่อสารโดยทำหนังสือถึงนายก อบจ.ภูเก็ต ได้ทุกเรื่อง ทั้งเรื่องการบริหารงาน การแสดงออก หรือแม้กระทั่ง เรื่องยาเสพติด ที่ ตู้ ปณ.22 ปณจ.ภูเก็ต 8300”

          ด้าน นายวัชรินทร์ ปฐมวัฒนพงศ์ ปลัด อบจ. กล่าวว่า “องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต จัดโครงการฯ ดังกล่าว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้ด้านกฎหมายและสิทธิสตรี เพื่อให้ความรู้ในการเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพของสตรีทั้งในด้านครอบครัว สร้างอาชีพและรายได้ เพื่อการดำรงชีวิตที่ยั่งยืน เพื่อสร้างภาวะผู้นำ พร้อมกระตุ้นและเปิดโอกาสให้สตรีเข้ามามีบทบาท กล้าคิดกล้าแสดงออกและมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหาสังคม เพื่อส่งเสริมให้องค์กรสตรีเกิดความเข้มแข็ง ลดการเหลื่อมล้ำทางสังคม อันนำมาสู่การพัฒนาประเทศโดยรวม เพื่อสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างหน่วยงานภาครัฐและประชาชน รวมทั้งสร้างความปรองดองสมานฉันท์ในระดับจังหวัดและในสังคมต่อไป”.