อิโปห์…วิถีสโลว์แต่คลาสสิค

       หลังจากรอบที่แล้ว เราพาทุกคนไปเที่ยวปีนัง เมืองที่เต็มไปด้วยสตรีทอาร์ต อาหารอร่อย และเสน่ห์ของธรรมชาติ บ้านเรือนทั่วเมือง ครั้งนี้เราขอนำเสนอ “อิโปห์” ที่เที่ยวเมืองรองของมาเลเซียที่นักท่องเที่ยวคงคุ้นหูกันมาบ้าง แต่เรามั่นใจว่าเมืองนี้ยังมีอีกหลายมุมให้นักท่องเที่ยวได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นแน่นอน

        จากปีนัง เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึง “อิโปห์” เป็นเมืองเล็กๆ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐเปรัค (Perak) ที่ตั้งอยู่กลางหุบเขาระหว่างกรุงกัวลาลัมเปอร์และปีนัง ในอดีตอิโปห์ได้รับการพัฒนาในการทำเหมืองแร่ดีบุกและมีการติดต่อค้าขายกับชาติตะวันตก จึงทำให้เราได้เห็นสถาปัตยกรรมบ้านเมืองสไตล์โคโลเนียลผสมผสานกับสไตล์จีนดั้งเดิม … พร้อมแล้วก็ไปสำรวจเมืองกัน

        1. Ipoh city tour

         ถึงอิโปห์จะเป็นเมืองเล็กๆ ท่ามกลางภูเขา แต่ที่นี่มีสถาปัตยกรรม ตึกรามบ้านช่องที่สวยงามมาก ในสมัยที่มาเลเซียตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศอังกฤษ ชาวอังกฤษได้วางระบบรถไฟ ระบบสาธารณูปโภคและวางผังเมืองต่างๆ ให้กับเมืองนี้ การเที่ยวในเมืองอิโปห์ เราจะได้เห็นทั้งร้านค้าแบบเก่าและคาเฟ่แบบใหม่มากมาย เหล่านี้สะท้อนไลฟ์สไตล์ของคนหลากรุ่นที่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว เราเริ่มด้วยสถานีรถไฟ Ipoh Rail Station จุดนี้เป็นจุดถ่ายรูปหลักของเมืองนี้ ต่อมาคือ Ipoh Town Hall ศาลหลักเมืองที่อยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟ เป็นสถานที่ราชการที่ไม่ได้ใช้แล้ว แต่ก็ถือเป็นจุดถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายเก็บเป็นที่ระลึก ห่างออกมาหน่อย คือ Birch Memorial Clock Tower หอนาฬิกาประจำเมืองอิโปห์ ตั้งอยู่ตรงข้ามกับมัสยิดประจำเมือง Ipoh State Mosque สร้างขึ้นในปี 1909 เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้แก่ J.W.W Birch ประชากรชาวอังกฤษคนแรกของรัฐเปรัค จุดนี้เหล่าฮิปสเตอร์นิยมมาถ่ายรูปและใช้เป็นจุดนัดพบกลางเมืองได้ด้วยเหมือนกัน

        2. Ipoh Old Town and Street Art

        ไฮไลต์ในตัวเมืองอีกส่วนคือ Ipoh Old Town and Street Art ซึ่งมีบ้านเรือนเก่าแก่ มีร้านอาหารอร่อยๆ และสิ่งที่เจ๋งที่สุดเกี่ยวกับ Old Town ก็คือสตรีทอาร์ตที่แนวมากๆ ไม่แพ้ในปีนังเพราะเป็นผลงานของ Ernest Zacharevic ศิลปินคนเดียวกันกับที่สร้างงานไว้ที่ปีนังจนโด่งดังไปทั่วโลก หากใครเดินสำรวจไปมาแล้วเกิดอาการล้ากันบ้าง เราแนะนำให้พักขาและหลบร้อนตามคาเฟ่ที่อยู่รอบๆ ย่านนี้ โดยเฉพาะ Old Town White Coffee ร้านกาแฟชื่อดังของมาเลเซียที่สาขาต้นตำรับอยู่ที่อิโปห์นี่เอง แต่ถ้าใครยังไหวและนิยมเดินเล่นตามซอกซอย เราแนะนำ Concubine Lane ถนนที่เต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นมากว่า 120 ปี ย่านนี้มีอาหาร ของฝาก กิ๊ฟช็อป และอีกหลายคาเฟ่ให้แวะชม-ชิม-แชะ เก็บภาพกันสนุก ซอยเล็กๆ ที่มีเอกลักษณ์อย่าง Concubine Lane ก็เป็นย่านที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวสายตะลอนทัวร์ได้ไม่ยาก

        3. Kellie’s Castle

        ส่วนที่เที่ยวนอกเมือง Kellie’s Castle ถือเป็นจุดที่ห้ามพลาด ปราสาทที่ดูใหญ่โตนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาเป็นที่พักของนายวิลเลียม เคลลี สมิธ เจ้าของไร่ชาวสก็อตแลนด์ผู้เข้ามาจับธุรกิจเหมืองแร่จนร่ำรวย ตัวปราสาทได้มีการสร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 20 แต่ในระหว่างที่สร้าง น่าเสียดายที่นายเคลลี่เสียชีวิตลงกระทันหันด้วยโรคปอดบวม ภรรยาและลูกๆ จึงเดินทางกลับประเทศและต้องระงับการสร้าง โดยรวมของปราสาทเป็นสถาปัตยกรรมแบบสก็อตติช มัวร์ริช และอินเดีย ดาดฟ้ามีสนามเทนนิส ชั้นล่างเป็นห้องรับแขกมีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งให้ชมเป็นตัวอย่าง มีห้องทานอาหาร รวมถึงมีทางลงไปยังห้องเก็บไวน์ชั้นใต้ดิน ชั้น 2 เป็นห้องนอนของสมาชิกในบ้านทั้งหมด 4 ห้อง ความเจ๋งอยู่ที่ห้องน้ำ ซึ่งทุกห้องจะมีทางลับลงไปที่ชั้น 1 เพื่อหนีออกไปนอกปราสาทได้ เสมือนเป็นทางออกฉุกเฉินเมื่อมีภัยมา ส่วนตึกที่เป็นหอคอยจะมีปล่องลิฟต์สามารถเดินวนขึ้นไปได้จนถึงดาดฟ้า ระหว่างทางจะเห็นป้ายเตือนให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังอันตรายเอาเอง เพราะไม่มีราวกันตก แม้เวลาจะล่วงเลยมาเกือบ 100 ปี ก็ยังมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างถึงสิ่งลึกลับ จนบางคนเรียกกันว่าปราสาทผีสิง เชื่อกันว่าดวงวิญญาณของท่านมักจะคอยออกมาเดินตรวจตราภายในปราสาท โดยเฉพาะบริเวณทางเดินชั้น 2 เป็นจุดที่ผู้คนพบเห็นบ่อยที่สุด

        4. Perak Cave Temple

        เป็นวัดถ้ำที่สำคัญวัดหนึ่งของมาเลเซีย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักเดินทางมักแวะเข้าชม ภาพแรกที่เตะตาเมื่อมาถึงคือภูเขาหินลูกเล็กๆ ที่อยู่ริมทาง แต่ก็มีถ้ำและศาสนสถานที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบจีนอยู่ด้านหน้า ภายในถ้ำมีภาพจิตรกรรมผนังที่วาดโดยจิตรกรชาวจีนฮ่องกง เป็นภาพขนาดใหญ่มาก วัดถ้ำแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีรูปปั้นพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม  พระสังกัจจายน์องค์ใหญ่ และสำหรับใครที่ยังพอมีแรง ด้านหลังของถ้ำเป็นบันไดทางขึ้นให้ไปสำรวจยอดเขาหิน เมื่อขึ้นไปถึงจะมองเห็นวิวเมืองได้ในระยะไกล ที่นี่ถือเป็นที่เที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดกันเลย

         5. Lost World of Tamboon

         สวนสนุก “Lost World of Tambun” สวนสนุกที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของโลกตั้งอยู่ที่เมืองอิโปห์ ประเทศมาเลเซียนี่เอง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรต้องมาถ้าได้มีโอกาสมาเที่ยวอิโปห์ ที่นี่เป็นสวนสนุกที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา ด้านหน้าสวนสนุกมองเข้าไปจะเห็นภูเขาเป็นแบคกราวด์ มีหมอกควันดูลึกลับดี ขอบอกว่ามาที่นี่ถ่ายรูปเพลินมาก Lost World of Tambun มีสวนน้ำในบรรยากาศป่าเขตร้อนเขียวชอุ่ม นักท่องเที่ยวสามารถแช่ตัวในน้ำแร่ Hot Spring and Spa ได้ตามสบาย จุดเด่นของ Lost World of Tambun คือให้บริการทั้งกลางวันและกลางคืน ผู้เข้าชมจะได้สัมผัสทั้งบรรยากาศการพักผ่อนที่ Lost World Hot Springs & Spa และตื่นตาตื่นใจกับสัตว์ป่ากลางคืนที่ Night Park พร้อมทั้งมี Luminous Forest แสดงแสงสีในป่าแห่งตำนานเผ่ามลายู ถ้าใครจะไปเที่ยวทั้งทีเราแนะนำให้พักค้างที่โรงแรมของสวนสนุกเลยนะ เพราะที่นี่เปิดให้บริการพร้อมกิจกรรมจัดเต็มเช้าจรดค่ำตั้งแต่ 9.00-23.00 น.

        เอาล่ะ ทั้งหมดทั้งมวลนี้คือสิ่งดีๆ ที่เราอยากแบ่งปันสำหรับทริปอิโปห์-ปีนังที่บอกแล้วว่า…ยังไงก็เที่ยวให้ปังได้อีกเยอะ ไว้มีของเด็ด ของดีใหม่ๆ มาเมื่อไหร่ จะแวะมาเล่าให้ฟังอีกนะ

สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับข่าวประชาสัมพันธ์เพิ่มเติม

ณัฐินีฐิติ ภิญญาปิญชาน์ (นิกกิ)

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวมาเลเซียประจำประเทศไทย

ยูนิต 1, ชั้น 3 อาคารซิลลิค เฮาส์ เลขที่ 1-7 ถนนสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500

โทร: 02 636 3380-3 โทรสาร: 02 636 3384 อีเมล์: Nikki@asialife.co.th

เว็บไซต์ http://www.malaysia.travel/th-th/th

Facebook: https://www.facebook.com/malaysia.travel.th/