อ่วม ! ปตท. ปรับขึ้นราคา NGV พรวดเดียว 51 สตางค์/กก. มีผล 16 กันยายน นี้

NGV
ภาพจาก เฟซบุ๊ก PTT News

           ปตท. ประกาศปรับราคาขายก๊าซ NGV ขึ้นอีก 51 สตางค์ต่อกิโลกรัม มีผลตั้งแต่ 16 กันยายน 2560 เพื่อสะท้อนต้นทุนก๊าซและค่าใช้จ่ายปรับปรุงคุณภาพที่สูงขึ้น แจงสังคมเข้าใจเพราะบริษัทรับภาระขาดทุนมาโดยตลอด

วันที่ 11 กันยายน 2560 นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในวันที่ 16 กันยายนนี้ ปตท. จะปรับขึ้นราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) อีก 51 สตางค์ต่อกิโลกรัม มาอยู่ที่ระดับ 13.70 บาทต่อกิโลกรัม จากราคาขายปลีกปัจจุบันที่ 13.19 บาทต่อกิโลกรัม เนื่องจากราคาต้นทุนเนื้อก๊าซธรรมชาติที่สูงขึ้น ประกอบกับมีการปรับปรุงคุณภาพก๊าซ ตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่เห็นชอบให้ค่าใช้จ่ายการปรับปรุงคุณภาพก๊าซเข้าไปอยู่ในโครงสร้างต้นทุนราคา NGV

สำหรับการปรับขึ้นราคาก๊าซ NGV ในครั้งนี้ จะปรับขึ้นเฉพาะรถยนต์ส่วนบุคคลเท่านั้น ส่วนรถสาธารณะนั้น ปตท. จะยังคงให้การอุดหนุนไปจนถึงสิ้นปี 2560 โดยขายในราคาเดิมที่ 10 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่ง ณ เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีบัตรที่ใช้ส่วนลดราคา NGV ไปแล้วทั้งสิ้น 84,788 ใบ แบ่งเป็น

1. รถแท็กซี่ รถสามล้อ รถตู้ร่วมขสมก. (ในกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ) รถบัส รถมินิบัส รถสองแถวร่วมบริการ รถขสมก. รถบัส รถตู้ร่วมบขส. ในวงเงินไม่เกิน 10,000 บาทต่อเดือนต่อคัน

2. รสบัสขนาดใหญ่ ในวงเงินไม่เกิน 40,000 บาทต่อเดือนต่อคัน

         อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการปรับขึ้นราคาก๊าซ NGV ทาง ปตท. ก็ยังมีผลขาดทุนจากการอุดหนุนก๊าซ NGV อยู่ แต่ถือว่าเป็นการปรับขึ้นมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับต้นทุนจริงมากขึ้น และจะช่วยลดภาระขาดทุนจากธุรกิจก๊าซ NGV ลงได้จากปี 2559 ที่มีผลขาดทุนจากธุรกิจ NGV ประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งก็ขอให้สังคมเข้าใจในส่วนนี้ด้วยด้านนายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ระบุว่า การที่ กบง. เห็นชอบให้ ปตท. คิดค่าปรับปรุงคุณภาพก๊าซได้นั้น เพราะที่ผ่านมา ปตท. มีการปรับปรุงคุณภาพก๊าซ เพื่อให้ก๊าซจากแหล่งทั้งหมดสามารถให้บริการผู้ใช้ในคุณภาพเดียวกัน โดยมีการเติมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไป ซึ่งการอนุมัติให้ปรับขึ้นราคาขาย NGV ได้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง และสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
สำนักข่าว INN