เพื่อ“ภูเก็ตสมาร์ทซิตี้” ผู้ว่าฯ ทำแผน 4 ปีเช่าCCTV ติดทั่วเกาะ 1,300 ล้านบาท

       จังหวัดภูเก็ตจัดทำแผนแม่บทติดตั้งกล้องวงจรปิด ให้ครอบคลุมทั้งจังหวัดกว่า 3 พันจุดภายใน 4 ปี ตามโครงการ ภูเก็ต สมาร์ท ซิตี้ หวังสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย ประเดิมของบจากหน่วยงานต่างๆ กว่า 1,300 ล้าน มาดำเนินการเช่าให้มีสเปคเดียวกันทั้งหมด เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลเข้าด้วยกัน แก้ปัญหากล้องเสียไม่มีงบซ่อมแซมดูแลรักษา

       นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า โครงการ ภูเก็ต สมาร์ท ซิตี้ ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมในด้านต่างๆ ของภูเก็ต ซึ่งในปี 2561 นี้ ได้มีการเน้นย้ำในเรื่องของการนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาเมืองในเรื่องของความปลอดภัยเป็นหลัก ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก ในการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนชาวภูเก็ต รวมทั้งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเมืองท่องเที่ยว เพราะเรื่องความปลอดภัยถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ของเมืองท่องเที่ยว

        ดังนั้น เพื่อให้ภูเก็ตมีความปลอดภัยสูงสุด ทางจังหวัดจึงได้จัดทำแผนแม่บทการจัดตั้งกล้องวงจรปิด หรือ CCTV ของจังหวัดภูเก็ต 4 ปี ซึ่งขณะนี้ได้จัดทำแล้วเสร็จ และได้ยื่นของบประมาณไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนที่เป็นแผนงานโครงการของภูเก็ต สมาร์ท ซิตี้ รวมไปถึงกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยงบประมาณที่ยื่นขอไปกว่า 900 ล้านบาท และผ่านทางวกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาอีก 400 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจเช็คว่าได้รับการจัดสรรงบประมาณจากส่วนไหนบ้าง :ซึ่งน่าจะมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้ เพราะกล้อง CCTV นอกจากจะมีประโยชน์ในเรื่องของความปลอดภัยแล้ว ยังมีประโยชน์ในเรื่องของการจราจร การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอื่นๆ อีกมากมาย

         ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวต่อว่า ในแผน 4 ปี ที่กำหนดนี้ จังหวัดภูเก็ตจะต้องติดตั้งกล้อง CCTV ให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด โดยเฉพาะจุดเสี่ยงต่างๆ จะต้องเร่งดำเนินการในระยะ แรก ซึ่งขณะนี้มีการกำหนดจุดทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้วเช่นกัน โดยจุดที่มีการติดตั้ง CCTV นั้น จากการสำรวจมีประมาร 3,000 กว่าจุด จะมีการวางแผนให้เสร็จภายใน 4 ปี นับจากปี 2561 นี้เป็นต้นไป

         อย่างไรก็ตาม ขณะนี้หน่วยงานต่างๆ ในภูเก็ต มีการติดตั้งกล้อง CCTV แล้วกว่า 1,400 จุด หากรวมในส่วนของภาคเอกชนจะมีมากกว่านี้ และนอกจากการติดตั้งให้ครอบคลุมทั้งเกาะแล้ว จะมีการเชื่อมโยงเครือข่ายของกล้อง CCTV เข้าร่วมกัน โดยการกำหนดรายละเอียดของกล้อง CCTV ให้เป็นสเปคเดียวกันด เพื่อเชื่อมโยงข้อมูล มาตรฐานเดียวกันทั้งหมด และทำในรูปแบบของการเช่า แทนการซื้อเพื่อแก้ปัญหาในเรื่องของการดูแลรักษา และการซ่อมแซม

         นายนรภัทร กล่าวอีกว่า ในส่วนของงบประมาณนั้น ทางจังหวัดกำลังเช็ครายละเอียดว่าจะได้รับการจัดสรรจากหน่วยงานใดบ้าง หากไม่เพียงพอจะให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมในการติดตั้ง โดยส่วนท้องถิ่นที่จะดำเนินการในปี 62 ต่อไป