โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต ผนึกกำลังสถานพยาบาลภาครัฐและองค์กรเอกชนรวม 18 แห่ง ลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการ #HealthyTogether ตอน Heart to Heart Project จัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการการฟื้นคืนชีพผู้หยุดหายใจขั้นพื้นฐาน(CPR)ให้ภาคประชาชน เพื่อยกระดับจังหวัดภูเก็ตให้เป็นเมืองที่มีความพร้อมด้านสาธารณสุขที่เข้มแข็ง สอดคล้องกับยุทธศาสตร์เมืองน่าอยู่และยุทธศาสตร์เมืองท่องเที่ยวนานาชาติ

        เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา นายแพทย์สมฤทธิ์ จันทรประทิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต พร้อมด้วย นพ.ทัปปณ สัมปทณรักษ์ รองผู้อำนวยการด้านผลิตบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และ แพทย์หญิงภัทรา พรกุลวัฒน์ แพทย์เวชกิจฉุกเฉิน โรงพยาบาลป่าตอง ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ #HealthyTogether ตอน Heart to Heart Project พร้อมลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับ 15 หน่วยงาน เพื่อสนับสนุนการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการการฟื้นคืนชีพผู้หยุดหายใจขั้นพื้นฐาน(CPR) แก่ภาคประชาชนให้บรรลุตามเป้าหมาย ณ ห้องประชุมคิง คาร์ล กุสตาฟ ชั้น 3 โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต

         นพ.ทัปปณ สัมปทณรักษ์ รองผู้อำนวยการด้านผลิตบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ได้กล่าวถึงความสำคัญของการช่วยฟื้นคืนชีพผู้หยุดหายใจ (CPR) ว่า “จุดมุ่งหมายสำคัญของการช่วยฟื้นคืนชีพผู้หยุดหายใจ คือการช่วยลดอาการบาดเจ็บ ความพิการ ตลอดจนการสูญเสียชีวิต ทั้งนี้ผู้ให้การช่วยเหลือจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจ สามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว เนื่องจากสมองไม่สามารถฟื้นกลับมาได้ หากขาดออกซิเจนเกิน 4 นาที อีกทั้งการเกิดภาวะวิกฤตินั้น มักเกิดนอกสถานพยาบาล หากประชาชนทั่วไปมีความรู้ในการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานที่ถูกต้องและทันท่วงทีจะสามารถช่วยชีวิตผู้ที่หัวใจหยุดเต้นได้  ไม่เกิดภาวะทุพลภาพอันเกิดจากสมองตายหลังการช่วยชีวิต ขณะที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตเองในฐานะเป็นโรงพยาบาลศูนย์และเป็นแม่ข่ายด้านการแพทย์ฉุกเฉินนั้น จึงให้ความสำคัญกับการผลิตบุคลากรปฏิบัติการวิชาชีพเฉพาะทางด้านการแพทย์ตามหลักสูตร Emergency Medical Technician (EMT) สำหรับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลต่างๆ และกลุ่มอาสาสมัคร (กู้ชีพ) ที่มีความสามารถในการช่วยเหลือดูแลรักษาผู้เจ็บป่วยฉุกเฉิน ณ จุดเกิดเหตุและระหว่างการนำส่งสถานพยาบาลได้อย่างถูกต้องรวดเร็วเพื่อรองรับการเกิดเหตุครอบคลุมทั้งจังหวัดภูเก็ต”

         ขณะที่ แพทย์หญิงภัทรา พรกุลวัฒน์ แพทย์เวชกิจฉุกเฉิน โรงพยาบาลป่าตองกล่าวถึง ที่มาของโครงการ #HealthyTogether ตอน Heart to Heart Project ว่า “โครงการนี้เกิดจากการรวมตัวของทีมพยาบาลวิชาชีพที่มีจิตอาสาระหว่างโรงพยาบาลป่าตอง โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต และโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต หลังทราบข่าวการสูญเสียบุคคลสำคัญของประเทศไทยอย่างดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน เนื่องจากอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน โดยมีความมุ่งมั่นที่จะถ่ายทอดความรู้เบื้องต้นในการช่วยชีวิตผู้หยุดหายใจ หรือการทำ CPR ให้กลุ่มนักเรียน, นักศึกษา, เจ้าหน้าที่อาสากู้ชีพ, ครูประจำห้องพยาบาล, เจ้าหน้าที่ในสังกัดเทศบาลหรือองค์การบริหารส่วนตำบลที่มีพื้นที่ติดทะเล, สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไป โดยรูปแบบการสอนจะเป็นการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ มีการเรียนรู้ภาคทฤษฎีและทดลองปฏิบัติกับหุ่นจำลองที่ใช้ในการฝึกทำ CPR โดยมีทีมวิทยากรที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรเฉพาะทางคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด และยังมีการประเมินความรู้ทั้งก่อนและหลังอบรม เพื่อให้แน่ใจว่าประชาชนที่เข้ารับการอบรมนั้น จะสามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง”

         สำหรับ ด้านความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลทั้งสามและหน่วยงานรวมถึงพันธมิตรจากหน่วยงานอื่นๆ นั้น นายแพทย์สมฤทธิ์ จันทรประทิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต ได้เปิดเผยว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่เป็นโครงการ#HealthyTogether ตอน Heart to Heart Project นี้ ได้รับการสนับสนุนที่ดีจากหน่วยงานต่างๆ มากถึง 15 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต, มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต, ชมรมร้านขายยาจังหวัดภูเก็ต, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต, สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต, สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้, โรงแรมดารา ภูเก็ต, สโมสรไลออนส์ภูเก็ต และสโมสรโรตารีอีก 7 สโมสร

        ด้วยความพร้อม ของทางด้านบุคลากรและอุปกรณ์ทางการแพทย์ของโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต จึงให้การสนับสนุนทีมวิทยากร, หุ่นจำลองที่ใช้ในการฝึก, และสถานที่จัดอบรมเชื่อว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นพลังสำคัญที่ทำให้ประชาชนทุกภาคส่วน ตระหนักถึงความสำคัญของการทำ CPR มีความรู้ สามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้สอดคล้องกับแนวคิด #HealthyTogether ด้านการจัดกิจกรรมตอบแทนสังคมของทางโรงพยาบาลฯ ที่อยากให้ทุกคนมีสุขภาพดีไปด้วยกัน พร้อมผลักดันให้จังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองแห่งความปลอดภัย มีความพร้อมทางสาธารณสุขที่เข้มแข็ง สอดคล้องกับยุทธศาสตร์เมืองน่าอยู่และยุทธศาสตร์เมืองท่องเที่ยวนานาชาติอย่างยั่งยืน