โรงพยาบาลดีบุก ร่วมกับโรงพยาบาลพันธมิตรในจังหวัดภูเก็ต ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) และแถลงข่าวเปิดรับสิทธิประกันสังคม ดูแลประชาชนให้ใกล้ยิ่งกว่าเดิม

โรงพยาบาลดีบุก ร่วมกับโรงพยาบาลพันธมิตรในจังหวัดภูเก็ต

ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) และแถลงข่าวเปิดรับสิทธิประกันสังคม

ดูแลประชาชนให้ใกล้ยิ่งกว่าเดิม

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา นายแพทย์นรินทร์ บุญจงเจริญ ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่ม 6 บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) นำทีมคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับ​ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าสำนักงานประกันสังคมจังหวัดภูเก็ต คณะผู้บริหารโรงพยาบาลพันธมิตร สื่อมวลชน และแขกผู้มีเกียรติ ในโอกาสเข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) และแถลงข่าวการเปิดรับสิทธิประกันสังคมของโรงพยาบาลดีบุก ณ ลานชั้น 1 โรงพยาบาลดีบุก

               นายแพทย์นรินทร์ บุญจงเจริญ ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่ม 6 บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) กล่าวต้อนรับว่า “ตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและชีวิตของประชากรทั่วโลก การมีสุขภาพดีจึงเป็นเรื่องที่ถูกให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ โรงพยาบาลดีบุกในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการทางการแพทย์ภายใต้เครือบริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) จึงได้พัฒนาศักยภาพและขยายขอบเขตการรักษาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 7 ปีของการให้บริการ เพื่อให้การดูแลสุขภาพประชาชนภาคส่วนต่าง ๆ มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น จนทำให้ปัจจุบันโรงพยาบาลดีบุก มีความพร้อมที่จะให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ประกันตนสิทธิประกันสังคม ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ด้วยความร่วมมืออันดีจากสำนักงานประกันสังคมจังหวัดภูเก็ต โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต และโรงพยาบาลกรุงเทพสิริโรจน์ อันจะส่งผลให้กลุ่มผู้ประกันตนสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ง่ายขึ้น”

                 ทางด้าน​ นายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงความร่วมมือในการดูแลสุขภาพประชาชนของสถานพยาบาลภาครัฐและเอกชนว่า “จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็งและมีความร่วมมืออันดีระหว่างสถานพยาบาลภาครัฐและเอกชนตลอดมา ดังจะเห็นได้จากความร่วมมือในการให้บริการฉีดวัคซีน COVID-19 แก่ประชาชนในช่วงที่มีการแพร่ระบาดอย่างหนักที่ผ่านมา เป็นต้น จึงนับเป็นเรื่องน่ายินดีที่โรงพยาบาลดีบุกได้มีส่วนร่วมกับสำนักงานประกันสังคมจังหวัดภูเก็ต โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และโรงพยาบาลในเครือ BDMS เพื่อขยายขอบเขตการให้บริการด้วยการเปิดรับสิทธิประกันสังคม ทำให้ผู้ประกันตนมีทางเลือกในการเข้ารับบริการด้านสุขภาพได้มากขึ้นโดยเฉพาะโรคที่มีความซับซ้อน จำเป็นต้องได้รับการดูแลโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง และยังช่วยลดระยะเวลาในการรอคอย และแบ่งเบาภาระของสถานพยาบาลภาครัฐ”

                  นายไมตรี ขุนทอง หัวหน้าสำนักงานประกันสังคมจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงนโยบายการรักษาของประกันสังคมและสิทธิที่ผู้ประกันตนพึงได้ว่า “สิทธิประกันสังคมที่ผู้ประกันตนแต่ละมาตราจะได้รับนั้นมีความแตกต่างกันออกไปตามประเภทผู้ประกันตน จากข้อมูลสำนักงานประกันสังคม พบว่า ผู้ประกันตนของจังหวัดภูเก็ต​ โดยมากเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 คือ ลูกจ้างที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ในวันเข้าทำงาน และทำงานอยู่ในสถานประกอบการที่มีลูกจ้าง ตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป โดยสิทธิที่ผู้ประกันจะได้รับสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายสิทธิด้วยกันครอบคลุมตั้งแต่การรักษาพยาบาล ทั้งในกรณีเจ็บป่วยทั่วไป ผู้ประกันสามารถเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลตามสิทธิโดยไม่ต้องสำรองจ่ายทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก และกรณีประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ สามารถเข้ารับบริการที่สถานพยาบาลได้ทุกแห่ง โดยไม่ต้องสำรองค่าใช้จ่ายภายในระยะเวลา 72 ชั่วโมง นับรวมวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ นอกไปจากนั้นยังได้รับสิทธิในการเข้ารับการบริการด้านทันตกรรม การคลอดบุตร การดูแลกรณีทุพพลภาพ เงินบำนาญชราภาพ เงินสมทบกรณีเสียชีวิต เงินสงเคราะห์บุตร และเงินทดแทนกรณีว่างงาน”

                  ทางด้าน​ นายแพทย์ณรงค์ฤทธิ์ ฮาวรังษี รักษาการรองประธานคณะผู้บริหาร บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการร่วมมือของ 3 โรงพยาบาลในเครือ BDMS ว่า “เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ จังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วย โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต โรงพยาบาลกรุงเทพสิริโรจน์ และโรงพยาบาลดีบุก โดยทั้งสามโรงพยาบาลมีรูปแบบการให้บริการที่แตกต่างกันตามความซับซ้อนของโรคตามลำดับ ภายใต้มาตรฐานการดำเนินงานของเครือกรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) โดยโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต จะเป็นโรงพยาบาลที่ให้บริการในระดับตติยภูมิที่จำเป็นต้องใช้ทีมแพทย์เฉพาะทางหลากสาขารวมไว้ด้วยกัน มีความโดดเด่นในการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคระบบประสาทและสมอง โรคกระดูกและข้อ โรคมะเร็ง และการดูแลผู้ป่วยอุบัติเหตุหนัก ขณะที่โรงพยาบาลกรุงเทพสิริโรจน์ เป็นโรงพยาบาลระดับทุติยภูมิ มีความชำนาญในการดูแลด้านกุมารเวชศาสตร์ สูติ-นรีเวชศาสตร์ ไปจนถึงการดูแลสุขภาพด้วยเวชศาสตร์ชะลอวัย และศัลยกรรมตกแต่งความงาม ส่วนโรงพยาบาลดีบุกเน้นการดูแลประชาชนในแนวกว้าง มีรูปแบบการบริการที่เข้าถึงง่าย โดยแพทย์เฉพาะทางสาขาหลัก ประกอบด้วย อายุรแพทย์ สูติ-นารีแพทย์ กุมารแพทย์ ศัลยแพทย์ ดังนั้นด้วยจุดแข็งของการมีเครือข่ายโรงพยาบาลที่เข้มแข็ง จะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาโรคที่มีความซับซ้อน ต้องใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูง และทีมแพทย์สหสาขา”

              ด้าน​ นายแพทย์ธนัช อินทร์เจริญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต และผู้บริหารโรงพยาบาลดีบุก กล่าวว่า “เพื่อให้เข้าถึงการดูแลสุขภาพของประชาชนได้มากขึ้น โรงพยาบาลดีบุกได้เปิดให้บริการสำหรับประชาชนผู้มีสิทธิประกันสังคมเป็นปีแรก โดยเปิดรับผู้ประกันตนได้ถึง 25,000 ราย ภายใต้คุณภาพการรักษาในเครือ BDMS ที่สามารถให้การรักษาได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่การตรวจสุขภาพ การวินิจฉัยโรค การรักษา การติดตามอาการ ไปจนถึงการประเมินภาวะสุขภาพ หรือแม้ในสภาวะที่เจอโรคที่ซับซ้อน โรงพยาบาลก็สามารถส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลที่มีศักยภาพสูงกว่า (Supra Contract) ประกอบด้วย โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต โรงพยาบาลกรุงเทพสิริโรจน์ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และโรงพยาบาลมะเร็งสุราษฎร์ธานี ในขณะเดียวกันทางโรงพยาบาลฯ ได้มีการออกแบบและปรับพื้นที่บริการภายใน จัดตั้งคลินิกผู้ป่วยประกันสังคม เพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับบริการการดูแลสุขภาพที่ปลอดภัยและรวดเร็ว ไม่ปะปนกับผู้ป่วยทั่วไป สำหรับผู้ประกันตนที่ต้องการเปลี่ยนมาใช้บริการที่โรงพยาบาลดีบุก สามารถเปลี่ยนได้ง่ายผ่าน SSO Connect Application ทั้งระบบ Android และ iOS หรือติดต่อฝ่ายทรัพยากรบุคคลขององค์กรที่ตนเองสังกัด เพื่อยื่นเปลี่ยนสิทธิ ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2565”