ไว้ทุกข์-ออกทุกข์

          เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 10 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานว่า ครม.มีมติอนุมัติขยายเวลาการไว้ทุกข์และการลดธงครึ่งเสาในช่วงงานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

          1.ขยายเวลาการไว้ทุกข์ของข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ จากเดิมขยายจากวันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม 2560 ไปจนถึงวันที่ 27 ตุลาคม 2560 อันเป็นวันเก็บพระบรมอัฐิ  รวมเวลา 15 วัน เป็น ขยายไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม 2560 รวม 17 วัน

          2.ให้สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ สถานศึกษา และสถานที่ทำการของรัฐ  ทั้งในและต่างประเทศลดธงครึ่งเสา จากเดิม ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม 2560 ถึงวันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม 2560 รวมเวลา 15  วัน  เป็น จนถึงวันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม 2560 รวม 17 วัน

          3.ให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ  จากเดิม  ออกทุกข์ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม 2560 เป็นต้นไป เป็น ออกทุกข์ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม 2560 เป็นต้นไป

          4.ให้เริ่มเก็บผ้าระบาย ป้ายส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย  ตามสถานที่ต่าง ๆ จากเดิม ตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม 2560 เป็น ตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม 2560

           นี่คือเนื้อข่าว ข้อความที่ปรากฏตามสื่อสารมวลชนที่เผยแพร่อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่บ่ายวันที่ 10 ตุลาคม 2560 และเพื่อให้เกิดความรับรู้และเข้าใจที่ถูกต้อง และปฏิบัติได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

          สำหรับการปฏิบัติในส่วนบุคคลนั้น เข้าใจว่ายังมีความรู้สึกทุกข์ในความสูญเสียอันใหญ่หลวงของคนไทยทั้งชาติ ซึ่งอาจปฏิบัติผิดแผกแตกต่างไป ซึ่งเป็นเรื่องส่วนบุคคล

          ส่วนการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องสมควร และเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่คิดไว้ก็คือ หลังจากเสร็จสิ้นงานสำคัญของคนไทยทั้งแผ่นดินในเดือนตุลาคม 2560 สิ่งที่คนไทยต้องทำเป็นอันดับแรกสุด คือ รู้รักสามัคคี สืบสานพระราชปณิธานของพ่อหลวงของปวงชนชาวไทย ใครมีหน้าที่การงานใด ก็จงปฏิบัติให้ดีให้ถูกต้อง โดยยึดตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

          อย่างไรก็ตาม การแสดงออกถึงความรักความอาลัยที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนารถบพิตร ซึ่งเสด็จสู่สวรรคาลัย นั้น คงปฏิบัติกันตามสมควร เช่น หลังออกทุกข์แล้ว แม้จะไม่ห้ามแต่งเสื้อผ้าสีฉูดฉาดแล้ว แต่ก็สมควรใช้เสื้อผ้าโทนสีสุภาพ แต่ไม่ต้องติดเครื่องหมายไว้ทุกข์

          หรือจะเป็นการแสดงออกถึงความสนุกสนาน รื่นเริง บันเทิง ก็ยังคงทำแต่เพียงเหมาะสม ไม่ถึงการเศร้าโศกเกินไป และก็ไม่ควรรื่นเริง สนุกสนานจนเกินงาม

          หลังออกทุกข์ในวันที่ 30 ตุลาคม 2560 ก็คงไม่มีการประกาศ มีกฎ หรือข้อห้ามใด ๆ ที่จะกลับไปเป็นปกติ ดังนั้น สำหรับคนไทยที่ยังรู้สึกว่ายังไม่อยากออกจากทุกข์ ก็สามารถทำตามความเหมาะสมของตนเอง และตามกาลเทศะด้วย เช่น จะแต่งกายด้วยชุดดำต่อไป หรือจะไปทำบุญ ทำทาน ปฏิบัติศาสนกิจ ทำความดีถวายพ่อหลวง เป็นต้น แบบนี้ย่อมกระทำได้

           หลักการสำคัญที่สุดในการออกทุกข์แล้วก็คือ การน้อมนำแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวัน ในการแก้ไขปัญหาส่วนบุคคล ส่วนรวมและเพื่อการพัฒนาประเทศให้สมดั่งพระราชปณิธานของพ่อหลวง รัชกาลที่ ๙ ของปวงชนชาวไทย