“AIS Digital For Thais” มุ่งนำดิจิทัลสร้างประโยชน์เพื่อคนไทยทั่วทุกภูมิภาค หนุนประเทศไทยก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0

        “เอไอเอส” มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยก้าวสู่ประเทศไทย 4.0 ผ่านแนวคิด “Digital For Thais” ใน 4 แกนหลัก ที่เป็นหัวใจสำคัญของประเทศทางด้านการศึกษา การเกษตร สาธารณสุขและธุรกิจสตาร์ทอัพ หนุนการนำดิจิทัลส่งเสริมการทำงานของภาครัฐพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้เข้มแข็ง เพื่อร่วมสร้างประโยชน์และคุณค่าให้แก่สังคมและประเทศชาติ

        เมื่อวันที่ 26 ก.ค.61 ณ​ ร้านอาหารระย้า จังหวัดภูเก็ต นายมหัณณพ อภินันทนพงศ์ หัวหน้าส่วนงานปฏิบัติการภูมิภาค-ภาคใต้ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอส ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมและเทคโนโลยีดิจิทัล​ จึงมุ่งมั่นในการนำนวัตกรรมดิจิทัลได้ช่วยเสริมความแข็งแรงในรากฐานหลักของประเทศผ่านแนวคิด“Digital For Thais” โดยนำดิจิทัลเข้าไปเพิ่มศักยภาพสร้างโอกาสการเข้าถึงและความเท่าเทียมกันของเทคโนโลยีไปสู่ประชาชน​ เพื่อขับเคลื่อนประเทศ ก้าวไปสู่ Thailand 4.0 และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยทั่วประเทศให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน​ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นฐาน 4 ด้าน ที่เป็นหัวใจสำคัญของประเทศทั้งด้านการศึกษาการเกษตรสาธารณสุขและธุรกิจสตาร์ทอัพ

       ทั้งนี้​ AIS จึงได้เพิ่มโอกาสทางการศึกษาและประสบการณ์ ให้แก่เด็กๆและเยาวชนไทยได้เข้าถึงแหล่งข้อมูลทางวิชาการและสาระบันเทิงผ่าน platform ต่างๆ​ เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้นอกห้องเรียนให้แก่เด็กและเยาวชนให้ก้าวทันโลกอย่างเท่าเทียมผ่านโครงการสานรัก สานความรู้ ด้วยการติดตั้งเครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงและมอบกล่อง AIS สานรักสานความรู้​ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาของเด็กๆที่อยู่ห่างไกลทั่วประเทศ​ ซึ่งปัจจุบันได้ติดตั้งกล่องสานรักให้กับโรงเรียนต้นแบบไปแล้วจำนวน 34 แห่ง​ เป็นโรงเรียนในพื้นที่ภาคใต้​ จำนวน 3 แห่ง​ ได้แก่​ จังหวัดชุมพร จ.ตรัง​ และ​ ​จ.นครศรีธรรมราชา​

        ส่วนด้าน​ การเกษตร AIS ยังได้นำเทคโนโลยีดิจิทัล​ ส่งเสริมการทำงานของเกษตรกรให้ก้าวไปสู่เกษตรกร 4.0 ด้วยแนวคิดสอนเสริมสร้างผ่าน แพลตฟอร์มฟาร์มสุข​ เพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงข้อมูลสำคัญในการทำการเกษตร​ คลังความรู้และภูมิปัญญาต่างๆ​ เช่น​ ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมในแปลงเพาะปลูกจากอุปกรณ์ NB-IOT ข้อมูลราคาซื้อขายผลผลิตทางการเกษตร​ เพื่อคุณภาพของผลผลิตของเกษตรกรให้สูงขึ้นรวมทั้งได้พัฒนา​ “แพล็ตฟอร์มร้านฟาร์มสุข” เพื่อเป็นช่องทางตลาดออนไลน์ให้เกษตรกรสามารถขายสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูป​ รวมถึงสินค้าที่เป็นภูมิปัญญาของชุมชน OTOP ซึ่ง แพล็ตฟอร์มร้านฟาร์มสุข จะเป็นแหล่งรวบรวมสินค้าเกษตรและสินค้าเกษตรแปรรูปที่ผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อสินค้าวิสาหกิจชุมชน ผลิตผลพันธุ์พืช และอุปกรณ์ทางการเกษตรที่หลากหลายจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ​ ถือเป็นการสนับสนุนและช่วยเหลือเกษตรกรโดยตรง​ ขณะนี้แพล็ตฟอร์มร้านฟาร์มสุข มีร้านค้า​ จำนวน 273 ร้าน​ และมีสินค้า​ จำนวน 1,517 รายการ​ โดยมีร้านค้าในภาคใต้นำสินค้ามาจำหน่ายบนร้านฟาร์มสุข​ จำนวน 36 ร้าน​ มีสินค้าจำนวน 169 รายการ

        นอกจากนี้​ ยังได้นำเทคโนโลยีดิจิทัล​ เข้าไปส่งเสริมการทำงานด้านสาธารณสุข​ โดยสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัลเพื่อสังคมไทย Application อสม.ออนไลน์ เครือข่ายสังคมออนไลน์เฉพาะกลุ่ม เพื่อเป็นเครื่องมือสื่อสารในการปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขชุมชนเชิงรุก​ ของหน่วยบริการสุขภาพและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน​ อสม. เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสาร ข้อมูลภาพ เสียง วีดีโอข้อความ พิกัดแผนที่ ระหว่างสมาชิกในกลุ่ม​ ผ่านรูปแบบการแจ้งข้อมูลการสนทนา​ ทำให้สมาชิกในเครือข่ายสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสาร​ ความเคลื่อนไหวด้านสาธารณสุขและภัยสุขภาพในชุมชนได้อย่างสะดวกรวดเร็วถูกต้องแม่นยำ รวมทั้งให้คำแนะนำแก่คนในชุมชนให้รู้จักดูแลสุขภาวะของตนเองได้ในเบื้องต้น ส่งผลให้การทำงานของหน่วยบริการสุขภาพและ​ อสม.​ มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น​ และประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพได้อย่างทั่วถึงที่สำคัญ Application อสม.ออนไลน์​ สามารถใช้งานได้กับทุกเครือข่าย​ เมื่อใช้งานบนเครือข่าย AIS จะไม่เสียค่าบริการอินเตอร์เน็ต

        ปัจจุบัน​ หน่วยบริการสุขภาพ​ และรพ. สต. เปิดใช้แอพพลิเคชั่น​ อสม.ออนไลน์​ จำนวน 2,264 แห่ง​ ทั่วประเทศ​ และมีผู้ใช้งาน​ จำนวน 38,687 คน​ โดยในพื้นที่ภาคใต้​ ได้มีการเปิดใช้งาน​ จำนวน 297 แห่ง​ และในปีนี้ก็มีแผนที่จะขยายการใช้งาน ไปยังระดับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด​ และ สาธารณสุขอำเภอ รวมทั้งส่งเสริมศักยภาพและการเรียนรู้ของ​ อสม.ให้ก้าวไปสู่ อสม 4.0 อย่างต่อเนื่อง​ โดยจัดโครงการประกวด แอพพลิเคชั่น​ อสม.ออนไลน์ ปีที่ 2 ซึ่งได้ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงดิจิทัล​ เพื่อเศรษฐกิจและสังคม​ (ดีอี) และได้เชิญชวนหน่วยบริการสุขภาพและรพ. สต. ที่มีเครือข่ายอสม.เข้าร่วมประกวดรับเงินรางวัลมูลค่า 7 ล้านบาท​ แบ่งเป็นรางวัลระดับประเทศราง​ วัลละ 100,000 บาท​ จำนวน 10 รางวัล​ ส่วนรางวัลระดับจังหวัด รางวัลละ 40,000 บาทจำนวน 10 รางวัล ซึ่งได้ทำการเปิดรับสมัคร​ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว​ และจะทำการปิดรับสมัคร​ใน​ วันที่​ 31 กรกฎาคม 2561​ นี้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.ais.co.th/aorsormor หรือ โทร.​ 062 520 1999

        สำหรับ​ ธุรกิจสตาร์ทอัพ เอไอเอส ได้ร่วมส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจสตาร์ทอัพ รวมถึงผู้ประกอบการในระดับชุมชนให้มีความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล​ โดยนำความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลไปส่งเสริมให้แก่ผู้ประกอบการ​ รวมถึงวิสาหกิจชุมชนเพื่อนำไปสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและบริการต่างๆ​ และนำไปต่อยอดธุรกิจและพัฒนาสินค้าให้สามารถเติบโตในเชิงธุรกิจ ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศได้อย่างยั่งยืน​ อันจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรม​ โดยรวมของประเทศและตอบสนองนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล​ อย่างแท้จริงสิ่งเหล่านี้​ คือ​ ความมุ่งมั่นของชาว เอไอเอส ที่จะนำขีดความสามารถทั้งแรงกายแรงใจและองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลไปร่วมสนับสนุนโครงสร้าง พื้นฐานหลักของประเทศที่มีความแข็งแกร่ง​ พร้อมที่จะก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต​ ของคนไทยให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไป