“Hitman’sBodyguard”เปิดตัว$21ล้านแชมป์แบบเหงาๆ”Annabelle”แล่นฉิว/”Logan Lucky”หงอย$7.6ล้าน
The Hitman’s Bodyguard หนังแอ็คชั่น-คอมเมดี้ของ Lionsgate กับ Summit ที่มี ไรอัน เรย์โนลด์ นำแสดงกับ ซามูเอล แอล. แจ็คสัน เข้าวินอันดับ 1 บ๊อกซ์ ออฟฟิศ ประจำสุดสัปดาห์ล่าสุดแบบไม่พลิกโผ ด้วยรายได้พอหอมปากหอมคอ $21.38 ล้าน เพราะช่วงนี้ยังขาดแคลนหนังบล็อคบัสเตอร์อยู่ อันดับสองคือ Annabelle: Creation หนังตุ๊กตาผี ภาคต้นกำเนิด ที่เก็บไปอีก $15.61 ล้านในเการเข้าฉายสัปดาห์ที่สอง ด้าน Logan Lucky หนังใหม่ที่ผลงานดีสุดของผกก. สตีเว่น โซเดอร์เบิร์ก กลับเก็บไปได้เพียง $7.6 ล้าน ทั้งที่เข้าฉายมากกว่า 3,000 โรง ถือว่าล้มเหลวเหมือนกัน
เริ่มที่อันดับ 1 ของสัปดาห์นี้ The Hitman’s Bodyguard เก็บไป $21.38 ล้าน ถือว่ามากกว่าที่คาดไว้ หากเทียบกับหนังแนวเดียวกัน แนวของหนัง และโปรดักชั่นของหนังค่าย Lionsgate ทั่วไป หนังได้คะแนนรีวิวไม่ดีนัก แต่ไม่แน่ว่าการได้ดารามาแรงอย่าง ไรอัน เรย์โนลด์ กับ ซามูเอล แอล. แจ็คสัน ที่ต่างมาจากจักรวาลมาร์เวล อาจมีส่วนช่วย โดยหนังเล่าเรื่องบอดี้การ์ดระดับเทพอันดับหนึ่งในวงการ (ไรอัน เรย์โนลด์) ที่ได้รับมอบหมายให้มาคุ้มกันนักฆ่าระดับพระกาฬผู้มีฝีปากไม่เป็นรองใคร (ซามูเอล แอล. แจ็คสัน) ซึ่งดูจากสายงานมันน่าจะขัดๆ กันหน่อย แต่ในภารกิจนี้พวกเขาต้องร่วมมือกันในการเดินทางจากลอนดอนไปยังกรุงเฮกเพื่อขึ้นศาลให้ทันภายใน 24 ชม.
อันดับสามเป็นหนังใหม่ Logan Lucky หนังแอ็คชั่นคอมเมดี้เกี่ยวกับการวางแผนปล้น ของผกก. สตีเว่น โซเดอร์เบิร์ก ไม่ลักกี้เแบบชื่อหนัง เมื่อเข้าฉาย 3,031 โรง ทำเงินไปเพียง $7.6 ล้านเท่านั้น ทั้งที่ดูทรงแล้วไม่ต่างจาก The Hitman’s Bodyguard เท่าไหร่ แต่ว่า โซเดอร์เบิร์ก ไม่ค่อยใส่ใจแผนการตลาดนัก อาจเป็นปัจจัยทำให้หนังทำเงินไม่ดี แม้มี ดาเนี่ยล เคร้ก มาช่วยเรียกแฟนๆ ซึ่งในส่วนของ เคร้ก ทำให้นี่เป็นหนังเปิดตัวน้อยสุดของเขา น้อยยิ่งกว่า The Invasion ที่เปิดตัวทำเงิน $5.9 ล้านเมื่อปี 2007
“Logan Lucky” เล่าเรื่องของสองพี่น้องอับโชคตระกูลโลแกน จิมมี่ (แชนนิ่ง เททั่ม) และไคลด์ (อดัม ไดร์ฟเวอร์) ที่วางแผนโจรกรรมครั้งใหญ่ในงานแข่งรถแข่ง NASCAR ประจำปี ณ สนามชาร์ลอตมอเตอร์สปีดเวย์ แต่สิ่งที่ขาดไปไม่ได้สำหรับการโจรกรรมครั้งนี้ คือความร่วมมือของผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดอย่าง โจ แบง (แดเนียล เคร็ก) เมื่อกลุ่มคนสุดป่วนร่วมมือกัน ความรั่วความฮาจึงบังเกิด
อันดับสี่คือ Dunkirk หนังดราม่าสงครามของผกก. คริสโตเฟอร์ โนแลน ยังเดินหน้าทำเงินอย่างสม่ำเสมอ เข้าฉายมา 5 สัปดาห์แล้ว แต่ยังแรงดีไม่มีตก เก็บอีก $6.61 ล้าน ลดลงแค่ -39.2% เท่านั้น ทำให้มันทำเงินตลาดในประเทศไปแล้ว $165 ล้าน จากทุนราวๆ $100 ล้าน สาวนตลาดต่างประเทศก็เก็บเพิ่มอีก $8.4 ล้านจาก 64 แห่ง รวมทำเงินต่างแดนไป $229.4 ล้าน และรายได้ทั่วโลกอยู่ที่ $395.12 ล้าน ซึ่งมากกว่า Batman Begins อดีตผลงานสร้างชื่อของโนแลน ที่ทำรวม $372.7 ล้าน และ Dunkirk เป็นหนังทำเงินทั่วโลกมากสุดอันดับ 5 ของโนแลนรองจาก The Dark Knight Rises ($1,084.9 ล้าน) , The Dark Knight ($1,003.0 ล้าน) , Inception ($825.5 ล้าน) และ Interstellar ($675.1 ล้าน)
จบท้ายอันดับ 5 ท็อปไฟว์แบบหงอยๆ เพราะ The Nut Job 2: Nutty by Nature หนังแอนิเมชั่นภาคต่อของเหล่าจอมแทะทั้งหลาย เข้าฉายเป็นสัปดาห์ที่สอง เก็บไป $5.09 ล้าน ลดลงไม่มาก -39.0% แต่ก็เพราะมันทำเงินไม่ดีมาตั้งแต่แรกนั่นแหละ รวมหนังทำเงินในประเทศไป $17.67 ล้านจากทุน $40 ล้าน แล้วยังไม่มีฉายในต่างแดน ซึ่งหากฉายเมื่อไหร่ก็คงดันทุรังไปจนคุ้มทุนแหละ
แวบไปดูหนัเรื่องอื่นๆ ข่าวดีของ Universal ที่ทำเงินบ็อกซ์ ออฟฟิศทะลุ $3 ล้านในสุดสัปดาห์ล่าสุด และหนึ่งในหนังฮิตปีนี้ของพวกเขาคือ Despicable Me 3 กำลังมีลุ้นทำเงินทั่วโลกทะลุ $1 พันล้านแล้วจ้า เมื่อล่าสุดมันทำเงินในประเทศเกิน $250 ล้านไปแล้ว ส่วนรายได้ต่างประเทศก็เฉียด $700 ล้านจาการเก็บไป $697.83 ล้าน รวมทั่วโลกอยู่ที่ $949.61 ล้าน ส่วนอีกเรื่องที่น่าสนใจคือ Wonder Woman ทื่ทำเงินทั่วโลกถึง $800 ล้านแล้ว จากการเก็บเพิ่ม $1.09 ล้านในประเทศ รวม $404 ล้าน และรายได้ต่างประเทศตอนนี้อยู่ที่ $396.1 ล้าน กลายเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ภาคแรกที่ทำเงินมากสุดแซง Spider-Man ปี 2002 (แบบไม่มีการปรับค่าเงิน)
สุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ไม่มีหนังใหญ่เข้าฉาย หนังใหม่จะฉายทั่วประเทศก็จริง แต่น้อยโรง ทั้ง Leap! ของ Weinstein ที่จะเข้าฉายประมาณ 2,000 โรง หรือ Birth of the Dragon ของ BH Tilt กับโรงฉายประมาณ 1,500 โรง และ All Saints ของ โซนี่ ฉายประมาณ 800 โรง ทำให้อันดับหนังท็อปไฟว์อาจไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
