QAD Adaptive ERP ตอบโจทย์ หนุนการผลิต HAPM Magna รองรับโรงงานผลิตในไทย

 

QAD Adaptive ERP ตอบโจทย์ หนุนการผลิต HAPM Magna รองรับโรงงานผลิตในไทย

HAPM Magna ผู้ผลิตและประกอบเบาะที่นั่งรถยนต์ระดับโลกเลือกใช้ซอฟต์แวร์ QAD ERP

 

                     QAD Inc. ผู้ให้บริการ Cloud ERP ซอฟต์แวร์ สำหรับระบบบริหาร จัดการ ให้กับบริษัทผู้ผลิตระดับโลก เผยกลุ่ม บริษัท HAPM Magna Seating System (Thailand) จำกัด เลือกใช้บริการซอฟต์แวร์ ERP เหตุมั่นใจศักยภาพของโซลูชัน ERP บนคลาวด์ ความสะดวกในการบริหารจัดการซัพพลายเชน และความรวดเร็วในการสนับสนุนการผลิต เพื่อป้อนชิ้นส่วนเบาะที่นั่งให้กับบริษัทรถยนต์สัญชาติเยอรมันในประเทศไทย

                    HAPM Magna Seating System (Thailand) เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Hubei Aviation Precision Machinery Technology (HAPM) ในประเทศจีน และ Magna International ในประเทศแคนาดา HAPM Magna Seating System (Thailand)  ผลิตและประกอบเบาะที่นั่งรถยนต์หลากหลายแบบกว่า 100 ชนิด โดยอาศัยหลักการพื้นฐานในการผลิตแบบ Just-In-Time ให้กับผู้ผลิต Tier 1 และ  OEMs อีกหลายราย ซึ่งฐานการผลิตใหม่ของ HAPM Manga ในประเทศไทยนี้ เป็นโรงงานที่เปิดขึ้นใหม่ เพื่อตอบสนองสายการผลิตที่มากขึ้น และจัดหาชิ้นส่วนที่นั่งให้กับ บริษัท รถยนต์เยอรมันในประเทศไทย

                บริษัท แม่ของ HAPM ใช้โซลูชัน ERP ของ QAD มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 และหลังจากเรียนรู้ในข้อดีของเวอร์ชั่นล่าสุด HAPM Magna Seating System (ประเทศไทย) จึงตัดสินใจเลือกใช้ QAD อีกครั้ง ทางทีมผู้เชี่ยวชาญจาก QAD ได้ตรวจสอบและเปรียบเทียบการดำเนินการ รวมทั้งค่าใช้จ่ายในระยะยาวต่อการลงทุนใน ERP บนโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง ระหว่างการใช้งาน ERP บนเซิร์ฟเวอร์ (on-premise) และ บนคลาวด์ (on-cloud) ในที่สุด HAPM Magna Seating System (Thailand) ตัดสินใจใช้เลือก QAD Adaptive ERP บนระบบคราวด์ ซึ่งคุ้มค่ากว่า

                 นายชัยวัฒน์ ณ สงขลา ผู้จัดการทั่วไป HAPM Magna Seating System (Thailand) กล่าวว่า “แม้ว่าเราจะตั้งโรงงานขึ้นมาใหม่ด้วยลูกค้าเพียงรายเดียว แต่เราตระหนักว่า การที่ธุรกิจจะเติบโตได้นั้น จะต้องมาจากการมีระบบ  ERP ที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นระบบ ERP ที่เราต้องการจะต้องสามารถช่วยเราให้มองเห็นการเติบโตในอนาคต พร้อมๆไปกับการตอบสนองที่ยืดหยุ่นต่อความต้องการขององค์กร เราเชื่อมั่นว่าการย้ายโซลูชั่น ERP ของเราไปยังคลาวด์เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพื่อรองรับเป้าหมายในการเติบโตของธุรกิจในอนาคต” 

              นอกจากนี้ฝ่ายบริหาร HAPM Magna Seating System (Thailand) รู้สึกประทับใจกับฟังก์ชั่น QAD Adaptive ERP ที่รองรับธุรกิจยานยนต์ ความสามารถในการจัดการ Supply Chain ด้วยวิธีการใช้งานที่ง่ายขึ้น QAD Adaptive ERP สามารถช่วยในเรื่องของระบบการบริหารจัดการเรื่องซัพพลายเชน ( Supply Chain) โดยเป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้งานง่าย ไม่ต้องทำการปรับแต่งซอฟต์แวร์ (Customization) เพิ่มเติม เนื่องจาก QAD นั้นเหมาะกับธุรกิจการผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ (automotive supplier) โดยเฉพาะสำหรับบริษัทที่ต้องการการติดตั้งซอฟต์แวร์ให้ใช้งานได้จริงภายในระยะเวลาอันรวดเร็วเพื่อช่วยตอบโจทย์ในการเติบโตของธุรกิจในอนาคต

             “เรารู้สึกดีใจที่เราเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยสนับสนุนลูกค้าของเราเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต ด้วยการตัดสินใจเลือกใช้ QAD Adaptive ERP” มิสเตอร์  ยาน ไบซิโพล กรรมการผู้จัดการ QAD ภาคพื้นเอเชียใต้ กล่าวว่า  “ ปัจจุบันนี้ปัจจัยในการดำเนินธุรกิจ สำหรับผู้ผลิต มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น และรวดเร็ว โซลูชั่นของเราถูกออกแบบมาเพื่อให้ลูกค้าสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงจากสิ่งแวดล้อมภายนอกอย่างทันท่วงที ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบทางธุรกิจ ด้วยข้อดีของ QAD Adaptive ERP จะช่วยให้ลูกค้ามีแพลตฟอร์มที่ยืดหยุ่นต่อการปรับเปลี่ยนของขนาดธุรกิจ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ด้วยแพลตฟอร์ม QAD Enterprise ซึ่งจะช่วยให้ HAPM Magna Seating (ประเทศไทย) จะสามารถแก้ไขและขยายการทำงานโดยไม่ต้องใช้การปรับแต่งซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ บริษัทที่เปิดใหม่และต้องทำงานกับลูกค้าใหม่ด้วยเช่นกัน”

              นอกจากนี้ นายชัยวัฒน์ ยังได้แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับการเลือกใช้งาน ERP ผ่านระบบ Cloud ว่า “ QAD แตกต่างจากโซลูชั่น ERP อื่น ๆ อย่างสิ้นเชิง เราคิดว่าการเลือก QAD นั้นเป็นการตัดสินใจที่เหมาะสมกับธุรกิจของเรามากที่สุด เพราะ QAD มีแอปพลิเคชั่นที่เหมาะกับการใช้งานในสายการผลิตโดยเฉพาะ และการตัดสินใจในขั้นต่อไปก็คือเราจะเลือกอะไร ระหว่างการใช้งานแบบ on-premise หรือบน Cloud ในขณะที่สำนักงานใหญ่ของเรานั้นมีประสบการณ์เกี่ยวกับ Cloud น้อยมาก และกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น แต่การที่ได้รับข้อมูลที่เหมาะสมและชัดเจนถึงความความเสี่ยงทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้นหากตัดสินใจที่จะใช้งานบน on-premise รวมทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายอื่นๆที่จะตามมาอีกมากมาย เราจึงตัดสินใจเลือกที่จะใช้งานบน Cloud ซึ่งในปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วแบบนี้ เราจึงไม่ควรที่จะไปลงทุนกับการเพิ่มจำนวนพนักงานและระบบคอมพิวเตอร์ภายในองค์กรเอง การเลือกทำงานบน Cloud จะทำให้เราสามารถที่จะโฟกัสไปยังธุรกิจหลักของเราได้” ผมเชื่อว่า Digital Disruption จะมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ต่อไปเรื่อยๆ และ ก็มั่นใจเช่นกันว่า QAD จะช่วยให้เราสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ รวมทั้งการเพิ่มขีดความสามารถในการประเมินความถูกต้อง และช่วยให้ธุรกิจเราก้าวไปข้างหน้าได้อย่างแน่นอน