กระทรวงพาณิชย์ เตรียมจัดงาน “Gems & Jewelry Fest in Phuket” บูรณาการการท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน

กระทรวงพาณิชย์ เตรียมจัดงาน “Gems & Jewelry Fest in Phuket” บูรณาการการท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน

            เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2564 ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการ​ แถลงข่าว​ จัดงาน “Gems & Jewelry Fest in Phuket” บูรณาการการท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนเข้าร่วม

            นายจุรินทร์ กล่าวว่า จากการที่จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่องภายใต้แผนการฟื้นฟูการท่องเที่ยวของประเทศไทย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จึงบูรณาการการท่องเที่ยว​ ด้วยการจัดโครงการส่งเสริมการตลาดสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ “Gems & Jewelry Fest in Phuket” ซึ่งนอกจากเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นภาคใต้แล้ว ยังเป็นการแสดงศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยในฐานะเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการค้าอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับและ Supply Chain (ห่วงโซ่อุปทาน) ที่สำคัญของโลกอีกด้วย

              โครงการ “Gems & Jewelry Fest in Phuket” เป็นการผนึกกำลังร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศร่วมกับสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อสร้างภาพลักษณ์และกระตุ้นยอดขายให้กับอุตสาหกรรมเครื่องประดับและอัญมณีเพื่อการส่งออกของไทย เพื่อช่วยผู้ประกอบการส่งออกกลุ่มอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย​ ให้สามารถฟันฝ่าวิกฤติโควิดในครั้งนี้ไปได้ โดยมีกิจกรรมประกอบด้วย “Gems & Jewelry Fest in Phuket” ซึ่งเป็นงานเจรจาการค้าและจำหน่ายปลีก โดยกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-12 ธันวาคม 2564 ณ ห้างเซ็นทรัลเฟสติวัลภูเก็ตจะมีผู้นำเข้าต่างประเทศผ่านฑูตพาณิชย์ทั่วโลก เพื่อมาเข้าร่วมเจรจาการค้าภายในงานและเปิดให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป​ ได้เข้ามาชมและเลือกซื้อสินค้าตลอดงาน และกิจกรรมจับคู่เจรจาการค้าออนไลน์ หรือ Online Business Matching สำหรับผู้ซื้อผู้นำเข้าต่างประเทศที่ไม่สามารถเดินทางมาภูเก็ตได้ ทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้จัดให้มีกิจกรรมจับคู่ธุรกิจกับคู่ค้าต่างประเทศเพื่อสร้างช่องทางและโอกาสในการส่งออกให้แก่ผู้ประกอบการไทยผ่านระบบออนไลน์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พ.ย.– 3 ธ.ค. 64 และกิจกรรมนำนักท่องเที่ยวผู้นำเข้ารายได้สูงมาที่ภูเก็ตอย่างน้อย 7 วัน เยี่ยมชมฟาร์มไข่มุก​ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว

             ทั้งนี้​ คาดว่าโครงการนี้จะมีจำนวนผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมประมาณ 200 รายและมีผู้นำเข้าต่างประเทศ นักท่องเที่ยว ตลอดจนประชาชนทั่วไปเข้าเยี่ยมชมรวมกว่า 4,000 ราย รวมถึงก่อให้เกิดรายได้จากการค้าอัญมณีและเครื่องประดับเพื่อการส่งออกและสร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจจากธุรกิจท้องถิ่นที่เกี่ยวเนื่องรวมไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท​ นายจุรินทร์ ได้กล่าวทิ้งท้าย