“นายกฯ​ เศรษฐา” ลงพื้นที่ภูเก็ต​ เพื่อวางแนวทางฟื้นฟูการท่องเที่ยว สร้างรายได้เข้าประเทศ

“นายกฯ​ เศรษฐา” ลงพื้นที่ภูเก็ต​ เพื่อวางแนวทางฟื้นฟูการท่องเที่ยว สร้างรายได้เข้าประเทศ

              “นายกฯ เศรษฐา” ลงพื้นที่ภูเก็ต วางแนวทางฟื้นการท่องเที่ยว สร้างรายได้เข้าประเทศ ย้ำมีวาระหลายเรื่อง ต้องเร่งทำเพื่อสร้างโอกาสให้ประเทศ พร้อมประกาศชัดเก้าอี้รัฐมนตรีเพื่อไทยลงตัวแล้วทุกตำแหน่ง คาดตั้งรัฐบาลได้เร็วกว่าไทม์ไลน์ที่กำหนดไว้ ขอบคุณ “บิ๊กตู่” ให้เกียรติตั้งผบ.ตร.ใหม่ รอ ก.ตร.เคาะอีกครั้ง

              วันนี้ (25 สิงหาคม) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่พร้อม นายแพทย์ พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานด้านนโยบายพรรคเพื่อไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี คณะทำงานด้านการท่องเที่ยว นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม คณะทำงานด้านการท่องเที่ยว และนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน

              ในกรณีการเดินทางมารับฟังข้อมูลสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินภูเก็ตว่า มารับฟังข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการท่องเที่ยว เพราะจุดแรกที่นักท่องเที่ยวมาถึงคือสนามบิน จึงอยากมาฟังความคิดเห็นในส่วนข้อมูลพื้นฐาน ปัญหาที่เกิดขึ้น และรับฟังว่าอนาคตอยากจะทำอะไร ทีมงานของพรรค จะได้มีการไปร่างนโยบาย ที่ตอบสนองต่อความต้องการของท่าอากาศยาน โดยเชื่อว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดีที่สุดในระยะสั้น คือการท่องเที่ยว ที่อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น เรื่องของการเตรียมการ รับฟังข้อมูลทุกภาคส่วนจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเรายังไม่ได้เข้ามาบริหารอย่างเต็มที่ จึงต้องมีการรับฟังข้อมูลไปก่อน เพื่อเตรียมวางแผน

               นายเศรษฐา ระบุด้วยว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนกลับมาเป็นแค่ 30% เท่านั้น จึงต้องหาวิธีให้ง่ายต่อการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย และต้องให้เกิดความเชื่อมั่น ทั้งเรื่องความปลอดภัยและการเดินทางเข้าประเทศ ต้องบริหารจัดการที่ดี และจำเป็นต้องพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ยกเลิกวีซ่ากับนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังอยู่ได้เพียงขั้นตอนของการรับฟังความคิดเห็นเท่านั้น การวางนโยบายหลักๆ จะมีการพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง และจากนี้ไป ก็จะไปหารือกับสภาพัฒน์เรื่องของการขยายท่าอากาศยาน ทั้งเชียงใหม่ ภูเก็ตและสุวรรณภูมิ เพื่อให้รองรับปริมาณการท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนที่เลือกจังหวัดภูเก็ตเป็นพื้นที่แรกในการลงพื่นที่ เนื่องจากปฏิเสธไม่ได้ว่าจังหวัดภูเก็ตเป็นแหล่งรายได้ใหม่ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จึงมาดูพื้นที่นี้ก่อน และจะไปดูพื้นที่อื่นๆ ต่อไป

               เมื่อถามว่าในการหาเสียงที่จังหวัดพังงา มีการสอบถามถึงเรื่องการสร้างสนามบิน ดังนั้นการลงพื้นที่ครั้งนี้จะเห็นเป็นรูปเป็นร่างหรือไม่ นายเศรษฐา ระบุว่า จะต้องปรึกษาสภาพัฒน์ก่อน เรื่องอยู่ในแผนแม่แบบอยู่แล้ว ให้ติดตามกันต่อไป เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญ เนื่องจากสนามบินภูเก็ต ใกล้จะถึงจุดที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากที่สุดแล้ว

             สำหรับ​ เรื่องของแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีนั้น นายเศรษฐา ระบุว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะดูแลในเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้พรรคมีความชัดเจนลงตัวในทุกตำแหน่งแล้ว แต่ในส่วนของภาพรวมคณะรัฐมนตรีทั้งหมด ขอให้อดใจรอในอีก 3-4 วัน คาดว่าน่าจะชัดเจน และต้องให้เกียรติพรรคร่วมในการพิจารณาตัวบุคคล ส่วนตนเองจะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือไม่นั้น ขอให้อดใจรอนิดนึง และยังคงคาดหมายว่า ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้จะสามารถเริ่มตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีได้ รวมทั้ง หวังว่าจะสามารถประชุมครม.นัดแรก และแถลงนโยบายต่อรัฐสภาได้เร็วกว่า timeline ที่คาดการณ์เอาไว้ เพราะอยากให้มีการนับหนึ่งได้แล้ว

              เมื่อถามต่อว่าการประชุม ครม. นัดแรกขจะมีวาระเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเหมือนเดิมใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องขอรวบรวมทั้งหมดก่อน และจะแถลงให้ทราบ เพราะเป็นหลายๆเรื่องที่เร่งด่วน รวมถึงการรับฟังกรณีภาคประชาชนอย่าง iLaw ที่มีการวบรวมรายชื่อ

               สำหรับ​ การประชุม ก.ตร. ที่พล.อ.ประยุทธ์ เลื่อนเคาะตำแหน่ง ผบ.ตร. เพื่อรอนายกรัฐมนตรีเป็นคนดำเนินการนั้น นายเศรษฐากล่าว่า เรื่องนี้ต้องคอยก่อน ให้ผ่านการถวายสัตย์ฯ ก่อน รวมถึงต้องมีการแถลงนโยบาย จากนั้น แล้วแต่ ก.ตร. จะมีการนัดประชุมเมื่อไหร่ และขอบคุณท่านที่นายกฯประยุทธ์ ให้เกียรติ