สมาคมโรงแรมภูเก็ต ร่วมกับ เซ็นทรัล กรุ๊ป ผลักดันการเลิกใช้ถุงพลาสติกในภูเก็ต “Banning Plastic Bags”

         เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2561 เวลา 13.30 น. ณ Top Supermarket ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต นายแอนโทนี ลาร์ค ประธานสมาคมโรงแรมภูเก็ต พร้อมด้วย นางสาววิไลพร ปิติมานะอารี รองประธานอาวุโส เซ็นทรัล ภูเก็ต ร่วมแถลงประกาศนโยบายการเลิกใช้ถุงพลาสติก “Banning Plastic Bags” ซึ่งการร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับงาน PHIST งานประชุมสัมมนาวงการโรงแรมและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนบนเกาะภูเก็ตที่จะจัดขึ้นในวันที่ 24 กันยายนนี้ ณ เจ ดับบลิว แมริออท ภูเก็ต รีสอร์ทแอนด์สปา

         นายแอนโทนี ลาร์ค ประธานสมาคมโรงแรมภูเก็ต กล่าวว่า กลุ่มเซ็นทรัลนับเป็นผู้ค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ดังนั้นจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องลดการใช้ถุงพลาสติกอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งการร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของการทำงานร่วมกันระหว่างภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในภูเก็ตสองแห่ง คือการท่องเที่ยวและการค้าปลีกรวมกันเพื่อประโยชน์ของทั้งเกาะ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับความร่วมมือที่ดีขึ้นผ่าน PHIST ที่กำลังใกล้เข้ามานี้

         สำหรับงาน PHIST งานประชุมสัมมนาวงการโรงแรมและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนบนเกาะภูเก็ต ที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 กันยายนนี้ ณ เจ ดับบลิว แมริออท ภูเก็ต รีสอร์ทแอนด์สปา ซึ่งจะมีวิทยากรบรรยายพิเศษพูดถึงประเด็นสำคัญ และการประชุมทางวิชาการเกี่ยวกับการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์กรการท่องเที่ยว ชุมชน และแนวโน้มด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลก โดยเป้าหมายของ PHIST คือการสร้างความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมในจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวของเกาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงภายในอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังสนับสนุนแคมเปญ “People.Planet.Phuket” ของโรงแรมภูเก็ต และเพื่อให้ความรู้แก่ชุมชนท้องถิ่นและผู้เข้าชมเกี่ยวกับความสำคัญของ “Three Rs” ได้แก่ Reduce (ลด) Reuse (ใช้ซ้ำ) และ Recycle (นำกลับมาใช้ใหม่) โดยการจัดงาน PHIST ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย บลูทรี ภูเก็ต และเซ็นทรัลภูเก็ต คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 500 คน

         ด้าน นางสาววิไลพร ปิติมานะอารี รองประธานอาวุโส เซ็นทรัล ภูเก็ต กล่าวว่า ขยะพลาสติกเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดที่โลกกำลังเผชิญในปัจจุบัน โดยเฉพาะในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอย่างภูเก็ต เราจึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ PHIST และสมาคมโรงแรมภูเก็ต เพื่อช่วยลดขยะพลาสติกบนเกาะ การรณรงค์ครั้งนี้นับเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นในการลดพลาสติกของเรา ซึ่งจะช่วยชาวภูเก็ตและรักษาสภาพแวดล้อมเก่าแก่ของเกาะไว้ด้วย ปัจจุบัน ถุงพลาสติกประมาณ 5 ล้านใบจะเข้าสู่มหาสมุทรโลกในปีนี้เพียงปีเดียว สิ่งนี้เป็นปัญหาใหญ่สำหรับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะสัตว์ทะเลประมาณ 100,000 ตัวที่ตายจากพลาสติกทุกปี แม้แต่ถุงพลาสติกที่ไม่ได้อยู่ในทะเลมักถูกทิ้งลงในพื้นที่ฝังกลบ ถุงพลาสติกบางชนิดอาจใช้เวลาในการย่อยสลายนานถึง 1,000 ปี PHIST จะช่วยอุตสาหกรรมการค้าปลีกและอุตสาหกรรมการบริการ ในการเสนอทางเลือกในการใช้พลาสติกโดยผู้จัดจำหน่ายสีเขียว (Green Suppliers) จะแสดงนิทรรศการในงาน PHIST ในขณะที่ผู้จัดงานจะมอบกระเป๋ารีไซเคิลให้กับร้านค้าอีกด้วย นอกจากนั้น ป้ายชื่อจะบูธจะทำจากไม้ที่นำกลับมาใช้ได้อีกครั้ง

         นางสาววิไลพร ได้กล่าวต่อไปอีกว่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลภูเก็ตได้เริ่มต้นเป็นที่แรกที่มีการลดใช้ถุงพลาสติดแก่ลูกค้า ซึ่งตอนนี้จะเริ่มจาก Top Supermarket และ Central food hall ก่อนและจะจำกัดเฉพาะห้างสรรพสินค้าในเครือในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเฉพาะเซ็นทรัลภูเก็ตมีการใช้ถุงพลาสติกถึง 2 ล้านใบต่อเดือน โดยตอนนี้ได้ตั้งเป้าในการลดปริมาณถุงพลาสติกให้อยู่เหลือ 1 ล้านใบต่อเดือน ซึ่งหากประสบความสำเร็จก็จะมีขยายตัวออกไปนอกพื้นที่อื่น ๆ รวมถึงเครือข่ายซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ของเซ็นทรัล โดยบริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะหยุดให้ถุงพลาสติกแก่ลูกค้าซูเปอร์มาร์เก็ตทุกวันที่ 3 ของทุกเดือน เป็น “วันงดใช้ถุงหูหิ้วพลาสติก” ตั้งแต่สิงหาคม – ธันวาคม 2561 โดยเริ่มจากท้อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ทั่วประเทศ 277 สาขา พร้อมประกาศยกเลิกการใช้หลอดพลาสติกที่ร้านเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ท็อปส์ และ เซกาเฟร์ ทุกสาขา โดยเปลี่ยนเป็นหลอด Biodegradable ผลิตจากข้าวโพดย่อยสลายภายใน 6 เดือน และยังเลิกใช้ภาชนะโฟมในการบรรจุอาหารอีกด้วย โดยได้ดำเนินการแล้วเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม และ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา สามารถลดปริมาณถุงพลาสติกได้ 1 ล้านใบใน 2 วัน ซึ่งต่อ ๆ ไปจะเห็นลูกค้าของเซ็นทรัลภูเก็ตจ่ายเงินสำหรับถุงนำมาใช้ซ้ำได้ (Reusable bags) โดยเงินที่ได้รับจากการขายกระเป๋าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเหล่านี้จะมอบให้กับเด็กกำพร้าผู้ด้อยโอกาสซึ่งเป็นผู้ที่ผลิตกระเป๋าด้วย