สรุปผล คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563

สรุปผล คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ

เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563

7 เรื่องในการแต่งตั้ง และ อำนาจหน้าที่

 

               1. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงการต่างประเทศ)

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 2 ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ดังนี้   นางพันทิพา เอี่ยมสุทธา  เอกะโรหิต เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา สาธารณรัฐตุรกี ให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด ราชอาณาจักรสเปน  และ นายนิกรเดช  พลางกูร  เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เป็นต้นไป

              2. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงศึกษาธิการ)

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 2 ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ดังนี้  นายประวิต เอราวรรณ์  ศึกษาธิการภาคสำนักงานศึกษาธิการภาค 2 สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานปลัดกระทรวง  และ นายสุรินทร์ แก้วมณี ศึกษาธิการภาค สำนักงานศึกษาธิการภาค 5 สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เป็นต้นไป

             3. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (สำนักนายกรัฐมนตรี)

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 2 ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ดังนี้  นางธิดา พัทธธรรม ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  และ นายวันฉัตร สุวรรณกิตติ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เป็นต้นไป

            4. เรื่อง การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิต

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิต จำนวน 5 คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งมาครบวาระสองปี ดังนี้  นางดาราพร  ถิระวัฒน์ ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค, นายอรรถพล  อรรถวรเดช  ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค,  นางอัมพร ปุรินทวรกุล  ด้านการเงินการธนาคาร, นายอนุชิต  อนุชิตานุกูล  ด้านคอมพิวเตอร์  และ นายธีรนันท์  ศรีหงส์

ผู้แทนผู้ประกอบการด้านธุรกิจภาคเอกชน  ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ในครั้งต่อๆไป ให้กระทรวงการคลังดำเนินการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิตให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัดด้วย ตามนัยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 (เรื่อง การดำเนินการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย)

            5. เรื่อง การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมาตรวิทยาแห่งชาติเพิ่มขึ้น

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอแต่งตั้ง นายสรนิต ศิลธรรม เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมาตรวิทยาแห่งชาติเพิ่มขึ้น  ทั้งนี้  ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป และให้ผู้ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มขึ้นอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว

           6. เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงพลังงาน)

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเสนอแต่งตั้ง นายณัฏฐวุฒิ  โพธิสาโร เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่ง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป

           7. เรื่อง การแต่งตั้งคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอุทยานธรณี

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการแห่งชาติ ว่าด้วยอุทยานธรณี โดยมีองค์ประกอบของคณะกรรมการฯ  รวม 27 คน และอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯ  รวม 7 ข้อ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงาน ก.พ.ร. ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป

องค์ประกอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นรองประธานกรรมการ กรรมการประกอบด้วย ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อธิบดีกรมป่าไม้ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือผู้แทน อธิบดีกรมการท่องเที่ยว หรือผู้แทน อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม หรือผู้แทน อธิบดีกรมศิลปากร หรือผู้แทน ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือผู้แทน ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือผู้แทน นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย หรือผู้แทน ผู้อำนวยการสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย หรือผู้แทน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านอุทยานธรณี ที่ประธานกรรมการแต่งตั้ง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านธรณีวิทยา ที่ประธานกรรมการแต่งตั้ง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านประวัติศาสตร์ ที่ประธานกรรมการแต่งตั้ง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสังคมศาสตร์และวัฒนธรรม ที่ประธานกรรมการแต่งตั้ง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านระบบนิเวศ ที่ประธานกรรมการแต่งตั้ง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านธรรมชาติวิทยา ที่ประธานกรรมการแต่งตั้ง โดยมีรองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ที่ได้รับมอบหมาย เป็นกรรมการและเลขานุการ ผู้อำนวยการกองธรณีวิทยา ผู้อำนวยการกองอนุรักษ์และจัดการทรัพยากรธรณี และนักวิเทศสัมพันธ์ สำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

 


อำนาจหน้าที่

         1. เสนอแนะนโยบายเกี่ยวกับการอนุรักษ์มรดกธรณีและอุทยานธรณีต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบและแจ้งหน่วยงานของรัฐนำไปสู่การปฏิบัติ

         2. กำหนดแผนงาน มาตรการ หลักเกณฑ์ และกลกไกการดำเนินงานอนุรักษ์มรดกธรณีและอุทยานธรณี  โดยเน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน เพื่อให้เกิดความยั่งยืนของการอนุรักษ์มรดกธรณีและการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น พร้อมทั้งส่งเสริมสนับสนุนการจัดตั้งอุทยานธรณีและเครือข่ายของอุทยานธรณีประเทศไทย รวมถึงการดำเนินกิจกรรมกับเครือข่ายอุทยานธรณีโลกระดับต่าง ๆ

        3. รับรองการเป็นอุทยานธรณีระดับประเทศ และเสนออุทยานธรณีระดับประเทศที่มีความพร้อม โดยความเห็นชอบจากกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบในการสมัครเข้ารับรองเป็นอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก

       4. ติดต่อประสานงานกับยูเนสโกเกี่ยวกับการดำเนินกิจกรรมภายใต้กรอบงานอุทยานธรณีโลก

       5. ประสานงานและติดตามการปฏิบัติงานของหน่วยงานภาครัฐเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบาย แผนงาน มาตรการและกลไป

       6. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ และ/หรือ คณะทำงานได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม

       7. ปฏิบัติหน้าที่อื่นใด ปฏิบัติการอื่นใด ตามที่นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย