อบจ.ภูเก็ต จัดงานภูเก็ตอันดามันฮาลาลเอ็กซ์โป ประจำปี 2561 พัฒนาศักยภาพธุรกิจฮาลาลเพื่อการท่องเที่ยว

         เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2561 เวลา 20.30 น.ณ เวทีกลางสะพานหิน จังหวัดภูเก็ต นายสุธรรม บุญมาเลิศ ผู้แทนจุฬาราชมนตรี เป็นประธานในพิพิธีเปิดงาน “ภูเก็ตอันดามันฮาลาลเอ็กซ์โป ปี 2561” (Phuket Andaman Halal Expo 2018) โดยมี นางสุดาวรรณ ปลอดทอง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต นายเสถียร แก้วพระปราบ รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ดร.โกมล ดุมลักษณ์ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดภูเก็ต สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดภูเก็ต ผู้แทนภาครัฐและเอกชน ผู้ประกอบการธุรกิจฮาลาล แขกผู้มีเกียรติ ตลอดจนพี่น้องมุสลิม เข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง

        นายเสถียร แก้วพระปราบ รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การจัดงานภูเก็ตอันดามันฮาลาล นั้น ได้แบ่งการจัดงานออกเป็น 2 ส่วน ด้วยกัน คือ การจัดงานส่วนที่ 1 งานสัมมนา “ภูเก็ตอันดามันฮาลาลเพื่อการท่องเที่ยว ปี 2561 เป็นการประชุมสัมมนวิชาการ โดยเชิญเอเจนซี่การท่องเที่ยว ตลอดจนผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวจากทั้งในและต่างประเทศ ได้มาประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทางธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำธุรกิจเกี่ยวกับฮาลาลเพื่อการท่องเที่ยว โดยจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม 2561 ณ โรงแรมเดอะ เมโทรโพล อ.เมืองภูเก็ต ด้านการจัดงานส่วนที่ 2 งานภูเก็ตอันดามันฮาลาลเอ็กซ์โป ประจำปี 2561 ในระหว่างวันที่ 24-26 สิงหาคม 2561 ณ เวทีกลางสะพานหิน ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตได้เล็งเห็นความสำคัญการยกระดับมาตรฐานฮาลาลของจังหวัดภูเก็ต เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวมุสลิมที่จะเพิ่มจำนวนมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาล ช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่าย เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชนในจังหวัดภูเก็ต อันดามัน และภาคใต้ อีกทั้งยังเป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายของผู้ประกอบการธุรกิจฮาลาลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

         สำหรับภายในงานมีกิจกรรมการแสดงวัฒนธรรมเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวมุสลิม การออกร้านสินค้า OTOP ของจังหวัดภูเก็ต อันดามัน และภาคใต้ การออกร้านอาหารมุสลิมกว่า 100 ร้าน และกิจกรรมบนเวทีทั้งการขับร้องอะนาซีด การแสดงของเยาวชน จัดแสดงนิทรรศการชีวประวัติศาสดามูฮัมหมัด (ซ.ล.) และนบีแห่งอิสลาม รวม 5 ท่าน และนิทรรศการเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ฮาลาล และจัดทำเส้นทางการท่องเที่ยวฮาลาลของจังหวัดภูเก็ต

         นายเสถียร กล่าวต่ออีกว่า การจัดงานภูเก็ตอันดามันฮาลาลทั้ง 2 ภาคส่วนนี้ อบจ.ภูเก็ต ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดภูเก็ต, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, สถาบันฮาลาล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, สมาพันธ์สมาคมการค้าการท่องเที่ยวฮาลาลไทย-อาเซียน และสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต องค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการธุรกิจ สินค้าและการบริการด้านการท่องเที่ยวและฮาลาลทั้งต่างประเทศและในประเทศ กลุ่มผู้นำอิสลาม รวมถึงประชาชนทั่วไป และองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาศักยภาพธุรกิจ ฮาลาลเพื่อการท่องเที่ยว เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมที่เข้ามาในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งในปัจจุบันมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเป็นการเตรียมความพร้อมในด้านการสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการสินค้าและบริการฮาลาลในจังหวัดภูเก็ต ในการปรับปรุงร้านค้าและบริการให้ถูกต้องตามหลักศาสนาผ่านการตรวจรับรองจากคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ตามแนวทาง “ศาสนารับรอง วิทยาศาสตร์รองรับ” และเพื่อประโยชน์ของชาวภูเก็ตรวมทั้งประเทศชาติโดยรวมต่อไป

         ด้าน นายสุธรรม บุญมาเลิศ ผู้แทนจุฬาราชมนตรี กล่าวว่า อาหารฮาลาล เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับมุสลิมในการบริโภค ส่วนผู้ที่มิใช่มุสลิม หากบริโภคอาหารฮาลาลก็จะได้ประโยชน์ต่อสุขภาพเช่นเดียวกัน ปัจจุบันอาหารฮาลาลเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากสังคมไทย มิใช่เพียงแต่ชาวไทยมุสลิมที่จำเป็นต้องบริโภคอาหารฮาลาลเท่านั้น แต่ผู้ประกอบการซึ่งต้องการผลิตอาหารฮาลาลจำหน่ายแก่ผู้บริโภคมุสลิมในประเทศ และผลิตเพื่อการส่งออกในตลาดโลกมุสลิมก็จำเป็นต้องให้ความสนใจอย่างจริงจัง ประกอบกับประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญของโลก ตลาดโลกมุสลิมมีประชากรผู้บริโภคประมาณ 2,000 ล้านคน ดังนั้น อาหารฮาลาลจึงเป็นช่องทางการตลาดที่สำคัญ ซึ่งประเทศไทยควรจะต้องเจาะตลาดอาหารฮาลาลเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้มากขึ้น ผู้ผลิตจึงจำเป็นต้องให้ความสนใจในเครื่องหมายนี้อย่างจริงจัง ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องเรียนรู้ และอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจอย่างถูกต้องเพื่อเตรียมความพร้อมของการผลิต สร้างฐานที่แข็งแกร่งให้กับประเทศต่อไป

         สำหรับการจัดงานในครั้งนี้เป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวกลุ่มประเทศมุสลิมให้เกิดความมั่นใจในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งนอกจากจะได้สัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามแล้ว ยังได้รับการบริการอาหารฮาลาลที่ถูกต้อง ปลอดภัย และได้มาตรฐานฮาลาลตามหลักศาสนาอิสลาม