นำอสังหาฯ ภูเก็ตโรดโชว์จีน เปิดตัวสมาร์ทบัสวิ่งสนามบิน

          บริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จับมือ ศูนย์วิจัยขีดความสามารถในการแข่งขัน สำนักวิจัย สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ บันทึกความร่วมมือทางวิชาการ วิจัยและการศึกษาการพัฒนาเมืองภูเก็ตเติบโต เป็นเมืองประเทศชั้นนำ ด้านอสังหาฯเตรียมจัดโครงการ “Phuket Property Awards” เคลียร์โครงการอสังหาฯของคนท้องถิ่นที่ผ่านหลักเกณฑ์ อย่างคอนโดฯ ค้างขายกว่า 2 พันยูนิตให้ต่างชาติ กลุ่มตลาดคนจีนที่มีกำลังซื้อสูง โดยการนำไปโรดโชว์ ด้านการขนส่งมวลชน ขณะนี้บริษัท ภูเก็ต สมาร์ท บัส จำกัด (PKSB) บริษัทในเครือ ภูเก็ตพัฒนาเมือง ได้เปิดตัวสมาร์ทบัสคันแรกจากจำนวน 10 คันมูลค่าลงทุนก้อนแรก 40 ล้านบาท ที่จะนำมาวิ่งในเส้นทางสนามบิน-ตัวเมืองภูเก็ตแล้วภายในต้นปี 2561 นี้อย่างแน่นอน หวังให้ภูเก็ตมีระบบขนส่งมวลชนที่ทันสมัยและอัจฉริยะ 

          เมื่อเวลา 10.30 น.ของวันที่ 31 ตุลาคม 2560 ที่โรงแรม โบ๊ทลากูน รีสอร์ท จ.ภูเก็ต บริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด หรือ PKCD ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ร่วมกับ ศูนย์วิจัยขีดความสามารถในการแข่งขัน สำนักวิจัย สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ โดยนายก้าน ประชุมพรรณ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด กับ ผศ.ดร.ประดิษฐ์ วิธิศุภกร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยฯ มี รศ. ดร.ประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดี สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และ นายบุญ ยงสกุล นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ร่วมเป็นสักขีพยาน โดยมีกรรมการบริหาร บริษัทภูเก็ตพัฒนาเมือง กรรมการสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต เจ้าหน้าที่จากสถาบันการเงิน และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม

           การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ เกิดจากการที่ทางบริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด ได้วางแผนงานเพื่อมีส่วนร่วมในการพัฒนาเมืองภูเก็ตตามแนวคิดที่การเติบโตอย่างชาญฉลาด หรือ Smart Growth และการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่ง หรือ Transit-Oriented -Development (TOD) ซึ่งเป็นแนวคิดในการวางผังและพัฒนาเมืองที่ประเทศชั้นนำทั่วโลกต่างนำมาใช้ในการออกแบบและกระตุ้นเศรษฐกิจของเมือง เพื่อให้การพัฒนาจังหวัดภูเก็ตให้เทียบเท่าเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ซึ่งการดำเนินการตามแนวคิดดังกล่าวข้างต้นจำเป็นที่จะต้องใช้หลักวิชาการและงานวิจัยมารองรับการพัฒนา

           ทางบริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด จึงได้ร่วมมือกับศูนย์วิจัยขีดความสามารถในการแข่งขัน สำนักวิจัย สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) เพื่อร่วมมือในการวิจัยและการศึกษาในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์และโครงการพัฒนาเมือง,ร่วมมือในการวิจัยและการศึกษาในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน และระบบขนส่งทางทะเล (Transportations) การพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่ง (TOD) และการพัฒนาท่าเรือ (Ocean Marina)

            ร่วมมือในการวิจัยและการศึกษาในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสาธารณูปโภค ระบบไฟฟ้า ระบบประปา และระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม เช่น การพัฒนาระบบการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทางเลือก (Alternative electricity supply) และการพัฒนาระบบบริหารจัดการแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค (Water supply management),ร่วมมือในการวิจัยและการศึกษาในการพัฒนาภูเก็ตให้เป็นเมืองท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลก เช่น การพัฒนาแอพพลิเคชั่นแพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยว (Application platforms) การส่งเสริมการท่องเที่ยวและการส่งเสริมการลงทุน (Premium tourist & Real estate promotion) การจัดกิจกรรมประชุมและนิทรรศการในระดับเอเชีย (Asean Expo 2025) การจัดงานประกวด Thailand Property Awards for Export (TPAE) 2017 และการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวเชิงสัญลักษณ์ของเมือง (Land mark)

            ร่วมมือในการวิจัยและการศึกษาในการพัฒนาภูเก็ตให้เป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) เช่น การพัฒนาระบบไฟส่องสว่างสาธารณะอัจฉริยะ (Smart lighting) การพัฒนาระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ (Smart safety) การพัฒนาระบบคลังความรู้ในการพัฒนาเมือง (Knowledge repository system)

           นอกจากนี้ ยังจัดเสวนาในหัวข้อ  ร่วมสร้างแนวทางการยกระดับอสังหาริมทรัพย์ ระหว่าง PKCD กับ NIDA โดยมี รศ.ดร.ประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดี สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ นายก้าน ประชุมพรรณ์ ประธานกรรมการ บริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด และ นายบุญ ยงสกุล นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ร่วมเวทีเสวนา

             โดยบริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด จะร่วมกับ ศูนย์วิจัยขีดความสามารถในการแข่งขัน สำนักวิจัย สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ สมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต และจังหวัดภูเก็ต พัฒนายกระดับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต ด้วยการจัดโครงการประกวดโครงการอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตขึ้น หรือ Phuket Property Awards เพื่อเป็นการพัฒนาและยกระดับโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตให้ได้มาตรฐานมากยิ่งขึ้น และเป็นการระบายสินค้าด้านอสังหาฯโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่เป็นโครงการของนักลงทุนในท้องถิ่นที่รอขายไปสู่นักลงทุนชาวต่างชาติ กลุ่มคนจีน เนื่องจากผลการวิจัยระบุว่าตลาดจีนมีศักยภาพสูงในการซื้อคอนโดฯในภูเก็ตมาก

           นายบุญ ยงสกุล นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต กล่าวว่า โครงการ Phuket Property Awards เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง PKCD กับศูนย์วิจัยฯ สมาคมอสังหาฯภูเก็ต และจังหวัดภูเก็ต ตามนโยบายของรัฐบาล โดย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีที่ต้องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้านอสังหาฯให้ถูกต้องตามระเบียบกฎหมายเพื่อนำไปโรดโชว์ส่งเสริมการขายที่ประเทศจีน ประกอบกับทางจังหวัดภูเก็ต โดยผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ต้องการที่จะให้โครงการบ้านจัดสรรในภูเก็ตเป็นไปตามกฎระเบียบ มีคุณภาพ ไม่มีการร้องเรียน และมีธรรมาภิบาลในการประกอบการ จึงได้ร่วมกันจัดโครงการดังกล่าวขึ้น

          นายกสมาคมอสังหาฯภูเก็ต กล่าวต่อว่า ตามแผนงานที่วางไว้ น่าที่จะมอบรางวัล Phuket Property Awards ให้กับผู้ประกอบการคอนโดมิเนียมที่เป็นโครงการของคนท้องถิ่นภูเก็ต และเป็นโครงการที่ยังขายไม่ได้ ได้ประมาณเดือน ก.พ.2561 ที่จะถึงนี้ การพิจารณามอบรางวัลดังกล่าวจะมาจากคณะกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาฯ เช่น ที่ดิน สคบ.เป็นต้น หลังจากนั้นทาง บริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด ก็จะเป็นเอเย่นต์หลักในการนำโครงการคอนโดฯที่เหลือขายและได้รับการการันตีไปโรดโชว์ส่งเสริมการขายในตลาดจีนโดยผ่านทางเอเย่นต์ในประเทศจีนอีกทอดหนึ่ง เนื่องจากผลวิจัยของศูนย์วิจัยฯระบุว่าจีนเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงในการที่จะนำเสนอขายคอนโดมิเนียมในภูเก็ต

          สำหรับคอนโดมิเนียมที่ได้มีการลงทุนและก่อสร้างแล้วเสร็จในภูเก็ต ที่อยู่ระหว่างการขายมีประมาณ 2,000 กว่ายูนิต 50% ของยูนิตที่อยู่ระหว่างการขายเป็นของนักลงทุนท้องถิ่น มีประมาณ 50 โครงการ ซึ่งทางสมาคมฯ ต้องการที่จะให้การช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการในท้องถิ่นให้สามารถขายโครงการได้หมด เพื่อให้เกิดการลงทุนคอนโดมิเนียมในภูเก็ตต่อ เนื่องจากขณะนี้การลงทุนคอนโดฯในภูเก็ตมีการชะลอตัวจากที่มียูนิตเหลือขายอีกจำนวนมาก และคาดหวังว่าการมอบรางวัล Phuket Property Awards ในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดในต่างประเทศ และสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนต่างชาติเพราะเป็นโครงการที่ได้รับการการันตีว่ามีคุณภาพ

            นายวัชร จารุอริยานนท์ กรรมการบริหาร บริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด หรือ PKCD เปิดเผยความคืบหน้าโครงการภูเก็ต สมาร์ท บัส (Phuket Smart Bus) ว่า บริษัท ภูเก็ต สมาร์ท บัส จำกัด หรือ PKSB บริษัทในเครือของ บริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัดโครงการสมาร์ทบัสเป็นหนึ่งใน 12 โครงการหลักที่บริษัทภูเก็ตพัฒนาเมืองกำหนดไว้ ที่จะพัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้มีประสิทธิภาพ ทันสมัย เหมาะสมกับเมืองในอนาคต

          โดยบริษัท ภูเก็ต สมาร์ท บัส ได้ร่วมกับ บริษัท ล๊อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ต่อรถบัสโดยสารจำนวน 10 คัน เพื่อให้บริการรถบัสโดยสารที่ทันสมัยและเป็นต้นแบบที่ช่วยส่งเสริมการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะภูเก็ต ขณะนี้รถต้นแบบได้ต่อเสร็จแล้ว และได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้ว ในงาน Bus And Truck 2017 งานแสดงเทคโนโลยีรถเพื่อการพาณิชย์และกิจการพิเศษครั้งที่ 14 จัดแสดงในวันที่ 2 – 4 พ.ย. 2560 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค โดยมีผู้บริหารของบริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมืองและบริษัท ภูเก็ตสมาร์ทบัสเดินทางไปเปิดตัวรถบัสคันดังกล่าว หลังจากนี้จะนำรถคันดังกล่าวมาทดลองวิ่งในภูเก็ต

           สำหรับรถบัสที่บริษัท ภูเก็ตสมาร์ทบัส สั่งต่อนั้นมีทั้งหมด 10 คัน ใช้เงินลงทุน 40 ล้านบาท เป็นรถบัสขนาด 24 ที่นั่ง ยาวประมาณ 9.50 เมตร สูง 2 เมตร มีที่เก็บกระเป๋าและสัมภาระ มีบริการwifiวิลแชร์สำหรับผู้พิการ มีลิฟสำหรับยกวิลแชร์ขึ้นมาบนรถบัส มีกล้อง CCTV โทรทัศน์ ไม่มีการเก็บค่าโดยสารแต่ใช้บัตรภูเก็ตการ์ด ซึ่งเป็นบัตรที่บริษัทภูเก็ตพัฒนาเมืองดำเนินการเอง และการนำแอพพลิเคชั่นมาใช้จะทำให้ผู้ใช้บริการทั้งที่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและคนภูเก็ต ได้ทราบว่ารถวิ่งให้บริการอยู่ในขณะนี้อยู่ ณ จุดใด ทำให้ผู้โดยสารสะดวกในการมารอรถที่จุดจอดรับส่ง โดยไม่ต้องเสียเวลามารอเป็นเวลานานๆ ทำให้รถบัสที่มาให้บริการนี้เป็นคนบัสที่ทันสมัยและมีความสมาร์ท เหมาะสำหรับเมืองทันสมัยอย่างเกาะภูเก็ต

           นายวัชร กล่าวต่อว่า สำหรับสมาร์ทบัสทั้ง 10 คันนี้ ตามเป้าหมายที่วางไว้ จะนำมาวิ่งให้บริการได้ประมาณต้นปี 2561 นี้ ในเส้นทางสนามบินภูเก็ต-ตัวเมืองภูเก็ต ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจาเส้นทางกับ บริษัท ภูเก็ตมหานคร จำกัด เจ้าของสัมปทานเส้นทางในปัจจุบัน และขอสัมปทานเส้นทางใหม่กับทางขนส่งภูเก็ตเพื่อเปิดเส้นทางวิ่งใหม่ คือ สนามบินภูเก็ต-สี่แยกบ้านเคียน-ลากูน่า-เชิงทะเล-กมลา-ป่าตอง-กะรน-กะตะ-ราไวย์ ระยะทางประมาณ 50-60 กิโลเมตร สำหรับค่าโดยสารนั้น อยู่ที่ 50-150 บาทขึ้นอยู่กับระยะทาง